ใครๆ ก็ตั้งคริสตจักรได้
เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่น้องคริสเตียนจำนวนมากมีใจอยากรับใช้พระเจ้าในการตั้งคริสตจักร แต่ไม่กล้า ด้วยสาเหตุหลายประการด้วยกัน สิ่งที่ได้ยินบ่อยในการสัมนา มีดังนี้
- ไม่มีสถานที่ ซึ่งก็รวมไปถึงไม่มีเงินเช่า หรือซื้อสถานที่
- ไม่มีทุนทรัพย์ ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์ เช่น เก้าอี้ เครื่องดนตรี เครื่องฉาย เครื่องฉา่ยภาพ แอร์ เครื่องครัว ฯลฯ
- ไม่มีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเทศนา การสอน การนำนมัสการ การเล่นดนตรี การประกาศ
- ไม่มีทีมงานเริ่มต้น อยากเริ่มแบบมีคนร่วมพอสมควร สิบคนยี่สิบคนก็ยังดี
- กลัวทำแล้วไปไม่รอด จะเสียหน้า และทำให้พระเจ้าเสียเกียรติ
- สมาชิกครอบครัวไม่เอาด้วย อยากอยู่ในโบสถ์ที่มีทุกอย่างพร้อมแล้ว อยู่กับเพื่อนๆ ที่คุ้นเคย ไม่อยากเปลี่ยนแปลงและไม่อยากลำบาก
- ผู้นำไม่อยากให้ออกไป อยากให้ช่วยงาน และอยากให้คนอยู่รวมตัวกันเยอะๆ มากกว่ากระจายไปตั้งคริสตจักรใหม่
- ไม่ใช่ของประทาน ไม่มีการทรงเรียก ไม่รู้สึกว่าพระเจ้านำ
- รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความเป็นผู้นำ
- ฯลฯ
ช่วยคิดหาคำตอบหน่อย
แต่กลุ่มนักตั้งคริสจักร (Church Planters) ทั่วโลกคิดเห็นตรงกันว่า เหตุผลที่ว่ามาข้างต้น ไม่ดีพอที่จะเป็นเหตุให้เรายุติการตั้งคริสตจักร คริสเตียนทุกคนควรพยายามมีส่วนในการตั้งคริสตจักรใหม่เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ เพราะ
- การตั้งคริสตจักรใหม่ คืองานมิชชั่น เพียงแต่จะเป็นมิชชั่นในประเทศ หรือต่างประเทศ ในวัฒนธรรมเดียวกันหรือต่างวัฒนธรรม เท่านั้นเอง
- การตั้งคริสตจักรใหม่ นำไปสู่การประกาศที่เอาจริงเอาจัง และมีการเกิดผลที่ยั่งยืน
นักวิชาการด้านตั้งคริสตจักรมีการให้คำตอบสำหรับเหตุผลข้างต้นไว้ทำนองนี้ครับ
ที่ว่าไม่มีสถานที่ ซึ่งก็รวมไปถึงไม่มีเงินเช่า หรือซื้อสถานที่ - ทำได้โดย ใช้บ้าน ที่ทำงาน หรือ ที่ไหนก็ได้ หรือใช้แบบคริสตจักรเครือข่าย คือ ไปใช่ร่วมกับคริสตจักรที่มีอาคารอยู่แล้ว
ที่ว่า ไม่มีทุนทรัพย์ ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์ เช่น เก้าอี้ เครื่องดนตรี เครื่องเสียง เครื่องฉา่ยภาพ แอร์ เครื่องครัว ฯลฯ - ทำได้โดย อะไรไม่มีก็ไม่ต้องใช้ ใช้แบบที่ีมี ไม่มีเครื่องฉายภาพก็ใช้ชีท ทุกอย่างปรับได้ประยุกต์เอาได้ คริสตจักรสมัยแรกก็ไม่มีอะไรเลยยังทำได้ ลองทำคริสตจักรแบบง่ายๆ (Simple Church/Organic Church) หรือจะใช้แบบคริสตจักรเครือข่ายในรูปแบบที่สองคือไปใช้ร่วมกับคริสตจักรที่มีอาคารอยู่แล้ว
ที่ว่า ไม่มีความสามารถในการเทศนา การสอน - ทำได้โดย ในการเทศนาการสอนก็หาบทเรียนหรือหนังสือ หรือคำเทศนาสำเร็จรูปมาใช้ หรือเปิดซีดี หรือใช้การอภิปราย หรือไม่ก็ไปอบรมเกี่ยวกับการเทศนาหรืออ่านหนังสือเกี่ยวกับการเทศนา
ในการนำนมัสการ หากไม่มีคนช่วยนำหรือไม่มีนักดนตรี เราก็ฝึกฝนได้ หรือไม่ก็ใช้การเปิดแผ่นซีดีเพลงนมัสการแทน ซึ่งทุกวันนี้ก็มีการทำกันเช่นนี้ทั่วโลก และบางคนก็บอกว่าชอบมากกว่าแบบเดิม
หากกังวลในเรื่องการประกาศ คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ - ให้เราตระหนักว่า คริสเตียนทุกคนประกาศได้ และได้รับพระมหาบัญชาให้ประกาศ ใช้ความกล้า และพึ่งฤทธิ์เดชพระเจ้าในการอธิษฐาน ใช้วิธีง่ายๆและพื้นฐานที่สุดคือ เยี่ยมเยียน เป็นพยานส่วนตัว อธิษฐานเพื่อผู้มีปัญหา ให้ใบปลิว หนังสือหรือซีดีแก่เขา แสดงความรักและช่วยเหลือเขาเท่าที่ทำได้ มีชีวิตที่เป็นแบบอย่าง
ที่ว่าไม่มีทีมงานเริ่มต้น อยากเริ่มแบบมีคนร่วมพอสมควร สิบคนยี่สิบคนก็ยังดี - แน่นอน การมีทีมย่อมดีแน่ แต่เราต้องคิดว่า มีเรากับพระ้เจ้าก็ทำได้ แล้วพระเจ้าจะจัดสรรคนอื่นๆ มาเพิ่มเติมทีหลังได้แน่นอน
หากกลัวว่าทำแล้วไปไม่รอด กลัวจะเสียหน้า และทำให้พระเจ้าเสียเกียรติ - ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งคริสตจักรแล้วปิด เหตุการณ์เช่นนี้เกิดทั่วโลก เกิดมาตลอดตั้งแต่คจ.สมัยแรก จนถึงปัจจุบัน และเกิดด้วยหลายสาเหตุ ให้เราตั้งให้มากที่สุด และอนาคตของแต่ละคริสตจักรนั้นฝากไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า การกลัวไปก่อนจนไม่ได้เริ่มต้นทำอะไร ถือว่าแย่กว่าการได้ลงมือทำแต่ยังไม่สำเร็จ หรือตั้งสิบแห่งแล้วเลิกไปแปดแห่ง ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย หรือตั้งไปแล้วพอสองปีปิด ซึ่งอาจเป็นด้วยเหตุอะไรก็ตาม แต่ผู้เชื่อเหล่านั้นก็ไม่ได้ทิ้งพระเจ้าหมด หลายคนจะยังคงอยู่ในพระคริสต์ เพียงแต่อาจต้องกระจายไปยังที่ต่างๆ ซึ่งก็ถือว่างานนั้นยังคงอยู่ มิใช่ล้มเหลว
หากกลัวสมาชิกครอบครัวไม่เอาด้วย อยากอยู่ในโบสถ์ที่มีทุกอย่างพร้อมแล้ว อยู่กับเพื่อนๆ ที่คุ้นเคย ไม่อยากเปลี่ยนแปลงและไม่อยากลำบาก - เรื่องนี้ก็ไม่มีใครผิด อาจลำบากใจหน่อย แต่ก็ยังทำได้ในหลายวิธี เช่น แยกกันทำ หรือทำวันอื่น หรืออธิษฐานเผื่อและหนุนใจพวกเขามากๆ ให้มีใจเดียวกัน ฯลฯ
กรณีที่ว่าผู้นำไม่อยากให้ออกไป อยากให้ช่วยงาน และอยากให้คนอยู่รวมตัวกันเยอะๆ มากกว่า กระจายไปตั้งคริสตจักรใหม่ - เรื่องนี้ก็ไม่มีใครผิด แล้วแต่การทรงนำและภาระใจของแต่ละท่าน แต่กระนั้นก็ยังทำได้โดย ทำคริสจักรแบบเครือข่าย หรือทำในวันหรือเวลาอื่น เป็นต้น
หากรู้สึกว่าไม่ใช่ของประทาน ก็ต้องตอบว่า พระคัมภีร์ไม่มีบันทึกเรื่อง "ของประทานการตั้งคริสตจักร"
หากรู้สึกว่าไม่มีการทรงเรียก ไม่รู้สึกว่าพระเจ้านำ เรื่องนี้ก็ต้องขอให้อธิษฐานและพิจารณาดีๆ ว่า เป็นเพียงความรู้สึก หรือเป็นความจริง
และหากรู้สึกว่าเราไม่มีความเป็นผู้นำ เป็นได้แต่ผู้ตาม นี่ก็อาจเป็นโอกาสที่เราจะเริ่มต้นการทำหน้าที่ผู้นำ หรือมิฉะนั้นเราก็อาจอธิษฐานขอพระเจ้าประทานผู้นำที่เราจะร่วมทีมกับเขาผู้นั้นก็ได้
คำขวัญสำคัญสำหรับคนที่มีใจสำหรับพันธกิจคริสตจักรเครือข่ายก็คือ
With Him We Can และ Together We Can !!!
good idea
ตอบลบผมสนใจมากครับ
ตอบลบ