วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ใครๆ ก็ตั้งคริสตจักรได้

ใครๆ ก็ตั้งคริสตจักรได้


เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่น้องคริสเตียนจำนวนมากมีใจอยากรับใช้พระเจ้าในการตั้งคริสตจักร แต่ไม่กล้า ด้วยสาเหตุหลายประการด้วยกัน  สิ่งที่ได้ยินบ่อยในการสัมนา มีดังนี้
  • ไม่มีสถานที่   ซึ่งก็รวมไปถึงไม่มีเงินเช่า หรือซื้อสถานที่ 
  • ไม่มีทุนทรัพย์  ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์ เช่น เก้าอี้  เครื่องดนตรี  เครื่องฉาย  เครื่องฉา่ยภาพ  แอร์  เครื่องครัว  ฯลฯ
  • ไม่มีความสามารถ  ไม่ว่าจะเป็นการเทศนา  การสอน  การนำนมัสการ  การเล่นดนตรี  การประกาศ
  • ไม่มีทีมงานเริ่มต้น  อยากเริ่มแบบมีคนร่วมพอสมควร  สิบคนยี่สิบคนก็ยังดี
  • กลัวทำแล้วไปไม่รอด  จะเสียหน้า และทำให้พระเจ้าเสียเกียรติ
  • สมาชิกครอบครัวไม่เอาด้วย  อยากอยู่ในโบสถ์ที่มีทุกอย่างพร้อมแล้ว  อยู่กับเพื่อนๆ ที่คุ้นเคย  ไม่อยากเปลี่ยนแปลงและไม่อยากลำบาก
  • ผู้นำไม่อยากให้ออกไป  อยากให้ช่วยงาน  และอยากให้คนอยู่รวมตัวกันเยอะๆ  มากกว่ากระจายไปตั้งคริสตจักรใหม่   
  • ไม่ใช่ของประทาน   ไม่มีการทรงเรียก   ไม่รู้สึกว่าพระเจ้านำ  
  • รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความเป็นผู้นำ
  • ฯลฯ
 ท่านผู้อ่านคิดว่า  เหตุผลเหล่านี้ดีพอที่จะทำให้เราควรหยุดการตั้งคริสตจักรหรือไม่?
ช่วยคิดหาคำตอบหน่อย



แต่กลุ่มนักตั้งคริสจักร (Church Planters) ทั่วโลกคิดเห็นตรงกันว่า เหตุผลที่ว่ามาข้างต้น ไม่ดีพอที่จะเป็นเหตุให้เรายุติการตั้งคริสตจักร คริสเตียนทุกคนควรพยายามมีส่วนในการตั้งคริสตจักรใหม่เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ   เพราะ
  • การตั้งคริสตจักรใหม่ คืองานมิชชั่น  เพียงแต่จะเป็นมิชชั่นในประเทศ หรือต่างประเทศ  ในวัฒนธรรมเดียวกันหรือต่างวัฒนธรรม เท่านั้นเอง
  • การตั้งคริสตจักรใหม่ นำไปสู่การประกาศที่เอาจริงเอาจัง และมีการเกิดผลที่ยั่งยืน  
 
นักวิชาการด้านตั้งคริสตจักรมีการให้คำตอบสำหรับเหตุผลข้างต้นไว้ทำนองนี้ครับ

ที่ว่าไม่มีสถานที่   ซึ่งก็รวมไปถึงไม่มีเงินเช่า หรือซื้อสถานที่  - ทำได้โดย ใช้บ้าน  ที่ทำงาน หรือ ที่ไหนก็ได้  หรือใช้แบบคริสตจักรเครือข่าย คือ ไปใช่ร่วมกับคริสตจักรที่มีอาคารอยู่แล้ว

ที่ว่า ไม่มีทุนทรัพย์  ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์ เช่น เก้าอี้  เครื่องดนตรี เครื่องเสียง  เครื่องฉา่ยภาพ  แอร์  เครื่องครัว  ฯลฯ - ทำได้โดย อะไรไม่มีก็ไม่ต้องใช้  ใช้แบบที่ีมี  ไม่มีเครื่องฉายภาพก็ใช้ชีท   ทุกอย่างปรับได้ประยุกต์เอาได้  คริสตจักรสมัยแรกก็ไม่มีอะไรเลยยังทำได้   ลองทำคริสตจักรแบบง่ายๆ (Simple Church/Organic Church)  หรือจะใช้แบบคริสตจักรเครือข่ายในรูปแบบที่สองคือไปใช้ร่วมกับคริสตจักรที่มีอาคารอยู่แล้ว

ที่ว่า ไม่มีความสามารถในการเทศนา  การสอน  - ทำได้โดย ในการเทศนาการสอนก็หาบทเรียนหรือหนังสือ หรือคำเทศนาสำเร็จรูปมาใช้  หรือเปิดซีดี  หรือใช้การอภิปราย  หรือไม่ก็ไปอบรมเกี่ยวกับการเทศนาหรืออ่านหนังสือเกี่ยวกับการเทศนา

ในการนำนมัสการ หากไม่มีคนช่วยนำหรือไม่มีนักดนตรี เราก็ฝึกฝนได้ หรือไม่ก็ใช้การเปิดแผ่นซีดีเพลงนมัสการแทน  ซึ่งทุกวันนี้ก็มีการทำกันเช่นนี้ทั่วโลก  และบางคนก็บอกว่าชอบมากกว่าแบบเดิม   

หากกังวลในเรื่องการประกาศ คิดว่าตัวเองทำไม่ได้  - ให้เราตระหนักว่า คริสเตียนทุกคนประกาศได้ และได้รับพระมหาบัญชาให้ประกาศ   ใช้ความกล้า และพึ่งฤทธิ์เดชพระเจ้าในการอธิษฐาน  ใช้วิธีง่ายๆและพื้นฐานที่สุดคือ เยี่ยมเยียน  เป็นพยานส่วนตัว  อธิษฐานเพื่อผู้มีปัญหา  ให้ใบปลิว หนังสือหรือซีดีแก่เขา   แสดงความรักและช่วยเหลือเขาเท่าที่ทำได้  มีชีวิตที่เป็นแบบอย่าง


ที่ว่าไม่มีทีมงานเริ่มต้น อยากเริ่มแบบมีคนร่วมพอสมควร สิบคนยี่สิบคนก็ยังดี  - แน่นอน การมีทีมย่อมดีแน่  แต่เราต้องคิดว่า มีเรากับพระ้เจ้าก็ทำได้     แล้วพระเจ้าจะจัดสรรคนอื่นๆ มาเพิ่มเติมทีหลังได้แน่นอน

หากกลัวว่าทำแล้วไปไม่รอด   กลัวจะเสียหน้า และทำให้พระเจ้าเสียเกียรติ - ไม่ต้องกังวลเรื่องตั้งคริสตจักรแล้วปิด  เหตุการณ์เช่นนี้เกิดทั่วโลก  เกิดมาตลอดตั้งแต่คจ.สมัยแรก จนถึงปัจจุบัน   และเกิดด้วยหลายสาเหตุ   ให้เราตั้งให้มากที่สุด  และอนาคตของแต่ละคริสตจักรนั้นฝากไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า  การกลัวไปก่อนจนไม่ได้เริ่มต้นทำอะไร ถือว่าแย่กว่าการได้ลงมือทำแต่ยังไม่สำเร็จ   หรือตั้งสิบแห่งแล้วเลิกไปแปดแห่ง ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย    หรือตั้งไปแล้วพอสองปีปิด ซึ่งอาจเป็นด้วยเหตุอะไรก็ตาม แต่ผู้เชื่อเหล่านั้นก็ไม่ได้ทิ้งพระเจ้าหมด หลายคนจะยังคงอยู่ในพระคริสต์ เพียงแต่อาจต้องกระจายไปยังที่ต่างๆ  ซึ่งก็ถือว่างานนั้นยังคงอยู่  มิใช่ล้มเหลว   

หากกลัวสมาชิกครอบครัวไม่เอาด้วย  อยากอยู่ในโบสถ์ที่มีทุกอย่างพร้อมแล้ว  อยู่กับเพื่อนๆ ที่คุ้นเคย  ไม่อยากเปลี่ยนแปลงและไม่อยากลำบาก  - เรื่องนี้ก็ไม่มีใครผิด  อาจลำบากใจหน่อย  แต่ก็ยังทำได้ในหลายวิธี เช่น  แยกกันทำ   หรือทำวันอื่น   หรืออธิษฐานเผื่อและหนุนใจพวกเขามากๆ ให้มีใจเดียวกัน  ฯลฯ   

กรณีที่ว่าผู้นำไม่อยากให้ออกไป  อยากให้ช่วยงาน  และอยากให้คนอยู่รวมตัวกันเยอะๆ  มากกว่า   กระจายไปตั้งคริสตจักรใหม่  -  เรื่องนี้ก็ไม่มีใครผิด  แล้วแต่การทรงนำและภาระใจของแต่ละท่าน  แต่กระนั้นก็ยังทำได้โดย ทำคริสจักรแบบเครือข่าย   หรือทำในวันหรือเวลาอื่น  เป็นต้น

หากรู้สึกว่าไม่ใช่ของประทาน   ก็ต้องตอบว่า พระคัมภีร์ไม่มีบันทึกเรื่อง "ของประทานการตั้งคริสตจักร" 

หากรู้สึกว่าไม่มีการทรงเรียก   ไม่รู้สึกว่าพระเจ้านำ  เรื่องนี้ก็ต้องขอให้อธิษฐานและพิจารณาดีๆ ว่า เป็นเพียงความรู้สึก  หรือเป็นความจริง 

และหากรู้สึกว่าเราไม่มีความเป็นผู้นำ  เป็นได้แต่ผู้ตาม   นี่ก็อาจเป็นโอกาสที่เราจะเริ่มต้นการทำหน้าที่ผู้นำ  หรือมิฉะนั้นเราก็อาจอธิษฐานขอพระเจ้าประทานผู้นำที่เราจะร่วมทีมกับเขาผู้นั้นก็ได้

คำขวัญสำคัญสำหรับคนที่มีใจสำหรับพันธกิจคริสตจักรเครือข่ายก็คือ

With Him We Can  และ Together We Can  !!!


    2 ความคิดเห็น:

    นี่เป็นเวทีเสรีแต่โปรดสุภาพและไม่พาดพิงผู้อื่นอย่างไร้จริยธรรม รวมทั้งสนับสนุนให้ระบุชื่อจริง กองบก.ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความและความคิดเห็นอีกทั้งอาจลบหรือแก้ไขหากเห็นว่าไม่เหมาะสม ส่งความคิดเห็นโดยตรงต่อกองบก.ได้ที่ networkchurchministry@gmail.com