แต่หลักศาสนศาสตร์เรื่องคริสตจักรมีเนื้อหามากขึ้นจากการเพิ่มเติมของท่านเปาโล แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นที่เชื่อกันในหมู่นักศาสนศาสตร์หลายท่านว่า ที่จริงแล้วศาสนศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องคริสตจักรนั้นจะถือเป็นหลักข้อเชื่อได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงแนวทางที่ปรับปรุงพัฒนาได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์
ถ้าเราอ่านพระธรรมกิจการและพระธรรมหมวดจดหมายฝากทั้งหมด เราคงจะเห็นภาพว่า คริสตจักรในพระคัมภีร์ใหม่ เน้นถึงคริสตจักรสากลมาก ดังที่กล่าวตอนต้นมาแล้วว่า พระเยซูทรงตั้งคริสตจักรเดียวซึ่งเป็นคริสตจักรสากล และพระคัมภีร์ไม่เคยเน้นคริสตจักรท้องถิ่น การกล่าวถึงคริสตจักรท้องถิ่นจะกล่าวถึงด้วยคำว่า "คริสตจักรในเมือง...." หรือ "คริสตจักรในบ้านของ...." (ว่าไปก็คงเหมือนกับเซเว่นทุกสาขาต่างก็เป็นธุรกิจเดียวกันแต่แยกเป็นสาขาต่างๆ)
แต่ปัจจุบันนี้เน้นคริสตจักรท้องถิ่นมาก ซึ่งก็คงไม่ได้โทษว่าเป็นความผิดของใคร การที่ทุกวันนี้คริสเตียนเราเน้นคริสตจักรท้องถิ่นมากกว่าคริสตจักรสากลก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากประวัติศาสตร์คริสตจักรที่มีการแยกตัวระหว่างของคาทอลิกกับโปรเตสแต๊นท์ และในหมู่โปรเตสแต๊นท์ก็มีการแยกตัวเป็นนิกายหรือคณะใหม่อยู่โดยตลอด จึงทำให้เกิดเป็นนิกายย่อยใหม่ๆ อย่างไม่รู้จบ
เราอาจต้องย้อนกลับมาตระหนักอย่างจริงจังอีกครั้งว่า การมีคริสตจักรท้องถิ่นไม่ควรทำให้เรามองข้ามคริสตจักรสากล เราต้องตระหนักว่า เราเป็นสมาชิกของคริสตจักรเดียวของพระเยซู และคริสตจักรทุกแห่งล้วนเป็นเพียงสาขาหนึ่งของคริสตจักรของพระเยซูเท่านั้น
อาจเปรียบได้กับเซเว่นอีเลฟเว่นซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั่วประเทศไทยกำลังจะถึงเจ็ดพันแห่ง แต่ทั้งหมดก็ล้วนเป็นธุรกิจเดียวกัน มีสำนักงานใหญ่อยู่ถนนสีลม
การตระหนักเ่ช่นนี้จะดีมีประโยชน์อย่างไรหรือ?
ประโยชน์ก็คือ เราจะไม่ทำให้คริสตจักรท้องถิ่นที่เราดำเนินการอยู่แยกตัวจากคริสตจักรสากล และเราจะไม่มุ่งแต่ประโยชน์ของคริสตจักรท้องถิ่นจนมองข้ามประโยชน์ของคริสตจักรสากล
ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็จะทำคริสตจักรเพื่ออาณาจักรพระเจ้า (Church for the Kingdom) ไม่ใช่คริสตจักรเพื่ออาณาจักรส่วนตัว (Church for the Empire)
แปลง่ายๆ ก็คงได้ว่า คิดระดับโลก แต่ทำระดับท้องถิ่น ประยุกต์ใช้กับเรื่องนี้ได้ว่า เราต้องพยายามมองภาพคริสตจักรสากลหรือพระกายของพระคริสต์ แล้วทำผ่านลงมาในคริสตจักรท้องถิ่น การรู้จักมองภาพของคริสตจักรสากลจะทำให้เรามองเห็นภาพรวมรอบด้านของพระกายพระคริสต์ได้ดีขึ้น และจะทำให้เราเห็นความสำคัญของคริสตจักรอื่นๆ ทั้งหมด จะเห็นว่าคริสตจักรทุกแห่งนั้นล้วนสำคัญ มีคุณค่า และมีความเกี่ยวพันกันในฝ่ายวิญญาณเพราะล้วนเป็นอวัยวะในพระกายพระคริสต์ และสิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้เราทำคริสตจักรท้องถิ่นได้ดีขึ้น คือทำคริสตจักรท้องถิ่นได้สอดคล้องกับภาพคริสตจักรสากลได้ดีขึ้น และก็เท่ากับเราเห็นภาพของคริสตจักรเครือข่ายได้ชัดเจนขึ้นในเวลาเดียวกัน
ซึ่งการที่เราทำคริสตจักรท้องถิ่นให้สอดคล้องไปกับคริสตจักรสากลเช่นนี้ ก็เท่ากับเรากำลังทำคริสตจักรเครือข่ายแล้ว
คริสตจักรเครือข่ายก็เป็นการเชื่อมโยงให้คริสตจักรท้องถิ่นหลายๆแห่ง ที่ไม่ว่าจะขนาดใดหรืออยู่ใกล้ไกล ให้สามารถเชื่อมโยงกันและทำพันธกิจร่วมกันในหลายรูปแบบจนขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นเป็นคริสจักรเดียวกัน
จริงอยู่ว่า เราคงไม่อาจทำให้ภาพของคริสตจักรสากลกลับไปเหมือนในคริสตจักรยุคแรกได้ เพราะสถานการณ์ทางประวัติศาสตร์ได้พาเรามาไกลจากเดิมมากเสียจนเกินกว่าหวนคืนแล้ว เว้นแต่พระเจ้าจะทรงทำิสิ่งอัศจรรย์ขึ้นมา
แต่ถึงกระนั้นถ้าเราทำบางสิ่งบางอย่างให้ดีกว่าเดิมได้บ้าง ก็ย่อมเป็นที่พอพระทัยพระเจ้ามิใช่หรือ!!!
เราทุกคนต่างเป็นคริสตจักรของพระเจ้าอย่างแท้จริง ไม่มีค่ายหรือคณะ เพราะแท้ที่จริงแล้วพระเยซูต่างหากคือศีรษะ เราทุกคนคือกายหรืออวัยวะที่ต้องเข้าส่วน สิ่งนี้คือสิ่งที่ขวางการเคลื่อนไหวของแผ่นดินพระเจ้า เพราะเราต่างคิดว่าเป็นคริสตจักรส่วนตัวกัน ผลิตคำสอนกันเอง หลักศาสนาก็พยายามทำให้แตกต่าง และคิดว่าของข้าเจ๋ง 555 น่าเบื่อสุดๆๆ สอนอะไรแปลกๆ เพื่อแย่งซีนพระเยซูกันเยอะ บางครั้งอยากร้องไห้มาก สอนดี แต่ขาดความรักของพระเจ้า แล้วจะอวยกันไปทำไม หากเราคิดว่าแท้ที่จริงเราทุกคนสำคัญเท่ากันหมด เพราะเราก็เป็นส่วนสำคัญในการทำให้คริสตจักรสากลขับเคลื่อนไม่ว่าเล็กหรือใหญ่สำคัญหมด
ตอบลบ