ถาม ผมชื่อ........... เป็นผู้รับใช้เต็มเวลา ผมได้ติดตามเรื่องคริสตจักรเครือข่ายบ้านของพันธกิจคริสตจักรเครือข่ายมานานพอสมควร รู้สึกมีใจอยากทำพันธกิจคริสตจักรเครือข่ายบ้านมาก เชื่อว่าเป็นพระพรมาก แต่เนื่องจากผมอยากเป็นผู้รับใช้แบบเต็มเวลา และก็มีหลายคนบอกว่า คริสตจักรบ้านก็ดีอยู่หรอก แต่มันเลี้ยงดูผู้รับใช้เต็มเวลาไม่ได้ จึงไม่มีผู้รับใช้เต็มเวลาคนไหนอยากทำคริสตจักรบ้านกัน อาจารย์มีคำตอบในเรื่องอย่างไรไหมที่จะช่วยให้เกิดความมั่นใจขึ้น นับถือ ............
ตอบ เรียน ท่านอาจารย์.........ที่นับถือ เรื่องนี้ผมอยากเรียนท่านอาจารย์ว่า การเริ่มตั้งคริสตจักรไม่ว่าจะแบบใด ก็เป็นเรื่องยากทั้งนั้นหากต้องเริ่มจากศูนย์ โดยเฉพาะในเรื่องการเงิน ด้วยเหตุนี้ ผู้ตั้งคริสตจักรส่วนใหญ่จึงมักเลือกตั้งคริสตจักรโดยมีกลุ่มคนแยกตัวจากคริสตจักรเดิมมาเริ่มด้วยกันจำนวนหนึ่ง หรือมิฉะนั้นก็ต้องมีองค์กรสนับสนุน หรือคริสตจักรแม่ หรือบุคคลที่ให้การสนับสนุนทางการเงินเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อน จนกว่าคริสตจักรแห่งนั้นจะเริ่มมีจำนวนคนที่ถวายทรัพย์มากพอที่จะสามารถดูแลผู้รับใช้เต็มเวลาได้
หรือมิฉะนั้นผู้ตั้งคริสตจักรท่านนั้นก็ต้องรับใช้แบบฆราวาส คือทำงานอื่นเลี้ยงชีพตนเองไปด้วยและทำงานรับใช้ไปด้วย ซึ่งที่จริงแล้วการรับใช้พระเจ้าแบบฆราวาสเช่นนี้ก็ไม่ใ่ช่เรื่องเสียหายอะไรเลยหากทำได้
ส่วนคำถามของท่านอาจารย์ที่ว่า "...อยากเป็นผู้รับใช้แบบเต็มเวลา และก็มีหลายคนบอกว่า คริสตจักรบ้านก็ดีอยู่หรอก แต่มันเลี้ยงดูผู้รับใช้เต็มเวลาไม่ได้ จึงไม่มีผู้รับใช้เต็มเวลาคนไหนอยากทำคริสตจักรบ้านกัน..." กระผมอยากหนุนใจท่านอาจารย์ว่า การทำคริสตจักรบ้านก็สามารถเลี้ยงดูผู้รับใช้เต็มเวลาได้ครับ ผมจำได้ว่าเมื่อผมอยู่ในคริสตจักรเครือข่ายบ้านในต่างประเทศ ก็มีคนที่เป็นผู้รับใช้เต็มเวลาได้โดยการที่เขาตั้งคริสตจักรบ้านหลายแห่ง ซึ่งก็คือคริสตจักรเครือข่ายบ้านนั่นเอง และแต่ละแห่งก็ร่วมกันถวายทรัพย์เพื่อดูแลเขา เพื่อให้เขาช่วยดูแลคริสตจักรเครือข่ายบ้านทั้งหมด รวมทั้งช่วยในการสร้างผู้นำ และขยายคริสตจักรบ้านแห่งใหม่ๆ ด้วย
และเนื่องจากว่า คริสตจักรเครือข่ายบ้านไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายมากในเรื่องอาคารสถานที่ ในขณะที่คริสเตียนแต่ละคนก็ยังถวายทรัพย์สิบลดหรือมากกว่าอยู่เช่นเดิม จึงกลายเป็นว่า คริสตจักรเครือข่ายบ้านมีเงินถวายรวมกันแล้วมากเท่าเดิม แต่ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าคริสตจักรทั่วไปมาก จึงสามารถดูแลผู้รับใช้เต็มเวลาได้ อีกทั้งยังมีเหลือส่งไปสนับสนุนงานมิชชั่นต่างประเทศได้อีกด้วย ในขณะที่คริสตจักรแบบเดิมที่มีจำนวนสมาชิกเท่าๆ กันกลับไม่สามารถทำได้ เพราะค่าใ้ช้จ่ายสูงกว่ามาก
แน่นอนว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีการสอนให้พี่น้องคริสเตียนในคริสตจักรเครือข่ายบ้านเข้าใจเรื่องหน้าที่ในการถวายทรัพย์ ขณะเดียวกันต้องสอนให้คริสตจักรบ้านแต่ละแห่งที่รวมตัวกันนั้นเข้าใจว่าทุกแห่งต้องร่วมมือกันถวายทรัพย์เข้ามาสู่ส่วนกลางเพื่อจะสามารถทำงานใหญ่ด้วยกันได้ เช่น ดูแลผู้รับใช้เต็มเวลาที่จะช่วยให้พันธกิจเกิดผลได้มากขึ้นกว่าการมีแต่ผู้รับใช้ฆราวาสเพียงอย่างเดียว สนับสนุนการประกาศ การอบรม การรวมตัวกันนมัสการ การจัดค่าย งานพันธกิจมิชชั่นในประเทศและต่างประเทศ งานบริหารส่วนกลาง สำนักงานกลาง ฯลฯ
มีหลักคิดอีกอันหนึ่งที่อาจเป็นประโยชน์นะครับ นั่นคือ หากถือว่า ผู้รับใ้ช้พระเจ้าเต็มเวลาควรมีมาตรฐานการครองชีพเท่าๆกับสภาพเฉลี่ยของสมาชิก ฉะนั้น หากมีสมาชิก 10 คน และแต่ละคนถวายทรัพย์สิบลดหรือ 10%ของรายได้ ฉะนั้น เงินถวายของสมาชิก10 คนรวมกันก็จะเท่ากับเงินเดือนของผู้รับใช้หนึ่งคน โดยเป็นจำนวนเฉลี่ยของทั้งสิบคนรวมกัน ถ้าคิดแง่นี้ก็จะเห็นว่าไม่ยากเลย ถ้าผู้รับใช้ท่านนั้นสอนสมาชิกให้มีภาระใจในการถวายสิบลด แต่นี่ไม่ได้ความว่าอยากให้เรารับใช้โดยใช้เรื่องเงินเป็นเป้าหมายหลักนะครับ เพียงแต่พยายามตอบคำถามให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นเอง
ฉะนั้นจึงขอยืนยันว่า ทำได้แน่นอนครับ สำหรับท่านที่อยากทำคริสตจักรเครือข่ายบ้านในแบบผู้รับใช้เต็มเวลา
นับถือ
ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์
ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นด้วยคนหนึ่ง
ตอบลบคริสตจักรบ้าน หรือคริสตจักรเซล สามารถเลี้ยงตัวเองได้แน่นอน ถ้าคริสตจักรนั้น เริ่มต้นด้วยการประกาศพระบารมีของพระเจ้า ผู้ทำการประกอบไปด้วยองค์ความรู้เรื่องพระคัมภีร์อย่างแท้จริง คำสอนมีการเิจิม มีวัตรแห่งการอธิษฐาน และการอธิษฐานถืออด และเข้าใจพื้นฐานการบริหารงาน
คริสตจักรแนวใหม่
คริสตจักรที่เรียกร้องและแสวงหาของประทานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะประกาศด้วยฤทธิ์เดช เมื่อนำคนมารอดแล้ว ต้องมีระบบการติดตามดูแลเลี้ยงดู มีการจัดบทเรียนพื้นฐานชีวิตให้ผู้เชื่อใหม่กลายเป็น ผู้เชื่อที่เข้มแข็ง ผู้เชื่อเข้มแข็งเกิดมีของประทาน และใจ เขาสามารถออกไปประกาศด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าเช่นเดียวกับที่ อาจารย์ทำได้ หรือทำได้ดีกว่าอาจารย์ผู้สอน
การถวายไม่ใช่ปัญหา แต่ที่คนไม่อยากถวายเพราะเขายังไม่โต ต้นไม้ยังไม่โต อาจเป็นเพราะไม่ได้กินปุ๋ย ไม่ได้รับน้ำสม่ำเสมอ ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ จะโตได้ไง เมื่อต้นไม้ไม่โตมันก็ไม่ออกผลเต็มที่
ถ้าทำงานของพระเจ้าเอาเงินมาก่อน นั่นคือความล้มเหลวเห็นๆ อยู่แล้ว
การรับใช้พระเจ้า ถ้าเอาความเชื่อมาก่อน อธิษฐานมาก่อน ผมคิดว่าสำเร็จแน่ครับ
ผมเองทำคริสตจักรบ้าน ได้ไม่ถึงปี มีสมาชิกที่มาร่วมประจำประมาณ สิบกว่าคน คนอื่นๆ มาบ้างไม่มาบ้าง ทั้งหมดไม่ถึงสามสิบ เรามีผลการถวายเฉลี่ยเดือนละสองหมื่นกว่าบาท พระเจ้าอวยพระพรให้เราไม่เพียงมีสิ่งจำเป็นพอเพียง เรายังไปอวยพรคริสตจัักรอื่นที่ตั้งมานานแต่ขาดแคลนทุกอย่างเสมอๆ ผมขอหนุนใจว่า ก้าวไปด้วยความเชื่อด้วยกันนะครับ
ทั้งบทความและความเห็นของ อ.รีวัฒน์ข้างบน หนุนใจมากๆ ครับ ขอบคุณพระเจ้า
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบโดยส่วนตัวที่เป็น ผรช.ตจว.ไม่เคยได้อ่าน ได้ทราบ เรื่องคริสตจักรเครือข่ายมาเลยเชียวนะครับ พอได้ยินบ้างก็กระแสคริสตจักรบ้าน ก็โดยส่วนตัวก็เห็นว่าคริสตจักรบ้านจะจำกัดในหลายเรื่องที่ว่าอย่างนี้เพราะตนเองสนใจความเป็น movement มากกว่าเพราะจะได้เรื่องความฮึกเหิม ความชัดเจนในนิมิต การประสานของประทาน ..แต่พอปี 2008 มานี่ Model นึงปรากฎมาเคลื่อนชีวิตตลอด คือภาพของการประชุมตามบ้านทุกวันเรื่อยไป การกระจัดกระจายของคริสตจักรยิว จากการข่มเหงสเตเฟน การฆ่าศบ.เยรูซาเล็ม(ยากอบ) และยิวที่เป็นพ่อค้าก็แยกย้ายไปตั้งกิจการตามที่ต่าง ๆ จะเล่าเรื่องภาพที่เคลื่อนงานที่ผมทำอยู่ให้พิจารณานะครับเพราะบางทีผมก็อาจไม่ถูกนัก
ตอบลบ1. ยิวที่กระจัดกระจายมีกิจการในมือทุกคน บ้านยุคนั้นเป็นสองชั้น ชั้นล่างทำกิจการ เช่นเย็บเต๊นท์ ฟอกหนัง ขายผ้าม่วง ฯลฯ คือเค้าเป็นยอดของนักธุรกิจ (ผมเชื่อว่าเขามีการเจิมเรื่องนี้) แต่ชั้นบนจะเป็นห้องประชุมได้เชียว เช่นเมื่อครั้งยุทิกัสตกมาจากชั้นบน (กจ.20.9) และเท่าที่จำได้(สมัยเรียน BB)ชั้นดาดฟ้าสำหรับผู้เผยวจนะหรืออัครทูตที่เดินทางมาพักสอน).......คจ.ยุคแรกเกิดจากทุกบ้านที่ย้ายไปทำกลุ่มย่อย ทุกวัน และชีวิตปกติเขาก็ค้าขาย นั่นคือกลุ่มย่อยที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มท้องถิ่น(ผมคิดของผมอย่างนั้น)
2. ธรรมเนียมยิว(ท่านที่ชำนาญแนะนำผมบ้างนะผมจินตนาการตามฐานข้อมมูลที่มีในหัวเท่านั้น) หากผู้ชายที่แต่งงานแล้ว 10 ครอบครัวขึ้นไป เขาจะมีธรรมศาลา และความเข้าใจของผมก็บอกว่านั่นคือ 1 คริสตจักร (จงทำให้เกิดเพราะนั่นสัดส่วนที่เหมาะเจาะ) เป็นคริสตจักรท้องถิ่นที่คว่ำโลกยุคนั้น..เพราะ อ.เปาโล ท่านรุกไปที่ธรรมศาลายิวก่อนทำงานที่อื่น Paul Model
*** ดังนั้้น คนที่ขับเคลื่อน คริสตจักร ใน 1 และ 2 ก็ยังไม่มีความจำเป็นสำหรับการสนับสนุนเพื่อเป็นผู้รับใช้เต็มเวลา ตอนนี้ผมเปิด คจ.ไปแล้ว 15 แห่ง มี สมช.รวม ๆ กันสักประมาณ 6-7 ร้อยคน มีเต็มเวลาคนเดียวและไม่ใช่ผมด้วยครับ พี่เค้าก็ไม่ค่อยได้รับเงินช่วยเหลือหรอกที่รับก็จากสามีที่เป็นข้าราชการ ส่วน ศบ.ที่ดูแลคริสตจักรส่วนใหญ่จะเป็น ครู พยาบาล เจ้าของกิจการ เป้าในการขยับไปเปิดคริสตจักรเครือข่ายคือ ขอให้เจ้าของกิจการอะไร ๆ ขยายสาขาไปยังพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งผมบอกแล้วข้างต้นว่าผมเชื่อว่าวิชาชีพของคนอิสราเอล(ฝ่ายวิญญาณ)มีการเจิม ยืนยันครับว่าได้สตังค์มากกว่าเงินถวาย ปีนี้ตั้งเป้าเปิดอีก 11 แห่ง ตอนนี้เปิดไปแล้ว 6 ขาดอีก 5 เหลือเวลา 3 เดือน แต่ทั้งนี้ปักสาขาของกิจการไปแล้ว ...สรุป คนขับเคลื่อน การประชุมตามบ้านและธรรมศาลา (คจ.ท้องถิ่น) ตาม 1และ2 ใช้สตังค์ตนเองดีที่สุดได้มากกว่าด้วย
3. แก้จุด....(ไม่อยากว่าอ่อน) ของ คจ.บ้าน คือต้องมีทีมที่สร้างรากฐานคริสตจักรเช่น ทีมของ อ.เปาโล ที่ท่านและทีมต้องไปสอนทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่หยุดหย่อน ภาพของ คจ.ใหญ่อย่างอันทิโอก เอเฟซัส เยรูซาเล็ม เพื่อรองรับการสร้างเตรียมสาวก อฟ.4.11 ..ทีมนี้ควรมีการสนับสนุนเต็มเวลาจากสิบลดและเงินถวายสารพัด ...ด้วยข้อ 3 ผมได้ให้คริสตจักรเครือข่ายในท้องถิ่นที่ได้รับการสร้างจาก คจ.แม่ในท้องถิ่นนั้น ๆ เอาเงินถวายสิบลดส่งเข้าบัญชีกลางของ คจ.ที่ไปเปิด เครือข่าย เพืี่อถวายให้ผู้รับใช้เต็มเวลา(อนาคตถ้า คจ.ใหญ่มากขึ้นกว่านี้แต่ตอนนี้ใช้แค่กิจการภายในก็เกลี้ยงแล้ว เพราะเดือนนึง 3-4 หมื่นก็หมดต่อ 1 คจ.ระดับอำเภอ) ...10 คจ.บ้านเป็น 1 ธรรมศาลา หลาย ๆ ธรรมศาลา คือ 1 คจ.ระดับเมือง และสารพัด คจ.ระดับเมือง จะตรงไปที่ คจ.เยรูซาเล็ม หรือเมืองหลวงคจ.แม่(ใหญ่)ผู้เป็นต้นแห่งนิมิต
4. คจ.ระดับเมืองหลวงของ Movement ที่ต้องบริหารทุกเรื่องอันว่าด้วยการสนับสนุนดูแล จัดการ มีสถานนมัสการระดับมหาวิหาร(เยรูซาเล็ม) อันทิโอก เอเฟซัส
*** บุคคลากรในข้อ 3 และ 4 อันนี้จึงควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้รับใช้เต็มเวลา ทั้งบทบาทตาม อฟ.4.11 ทีมนักดนตรี ทีม วิทยาลัยพระคริสตธรรม ฝ่ายงานสารพัด
ที่จริงเขาถามเรื่อง คจ.เครือข่ายและการสนับสนุน ผรช.เต็มเวลา แต่ผมเอา 3 และ 4 มาห้อยไว้ในคำอธิบายเพราะอยากให้เห็นว่า ระดับ 1 และ 2 ไม่ต้องมีการสนับสนุนจะเคลื่อนไปไกลกว่า ผรช.ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยจากวิชาชีพ(ที่พระเจ้าเจิม)มากกว่านัก สบายใจด้วย ..หากจะมีการสนับสนุน ควรมาที่ระดับ 3 และ 4 ยกเว้นระดับ เพิ่งส่งคนไปบุกเบิก หรือระดับธรรมศาลา (2) สมาชิกเยอะมากจำเป็นต้องเสียสละวิชาชีพวางไว้แล้วมาเป็น Full Time
ที่เล่ายาวเพราะชอบเรื่อง คริสตจักรเครือข่ายครับ เสียดายที่เห็นว่ามีการสัมนาในวันนี้ ผมติดงานด่วนที่ จ.ตาก พอดี เลยพลาดโอกาสไปเจอกันครับ
จากกฤช จันทร ชลบุรี ครับ
ตอบลบวิธีการของคุณวรชาติ จันลา ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง และที่ผมทำอยู่ ผมไม่มีการถวายทรัพย์และประกาศบ่อยๆว่าจะไม่มีการเชิญชวนให้ถวายทรัพย์ด้วย
เป็นพยานได้ครับว่า " จงแสวงหา แผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะเพิ่มเติม สิ่งทั้งปวงให้ " มัทธิว 6:33.
และเรียนคุณวรชาติด้วยความเคารพ ผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้ครับ
khlit@hotmail.com เพื่อให้เป็น,ให้ทำและให้มีตามพระประสงค์ร่วมกัน
คุณกฤช ผมเมล์ไปหาแล้วนะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คงอาจจะได้เจอตัวกันในการประชุมครั้งต่อไปกระมังจะพยายามปรับตารางเวลาให้ได้ครับ
ตอบลบทั้งบทความและความเห็นข้างบนทั้งหมด ให้ความเข้าใจที่ชัดเจนและหนุนใจมาก ขอบคุณพระเจ้า
ตอบลบ