ไรน์ฮาร์ด บองเก้ ผู้ประกาศฯ แบบที่อยากให้มีในประเทศไทย

โดย ดร.ศิลป์ชัย  เชา์ว์เจริญรัตน์

ไรน์ฮาร์ด บองเก้ (REINHARD BONKE) เป็นผู้รับใช้พระเ้จ้าชาวเยอรมัน ที่ได้รับการทรงเรียกเพื่อการประกาศกับทวีปอัฟริกาโดยเฉพาะ    พันธกิจการประกาศของท่านจะเน้นที่การรักษาโรคอย่างอัศจรรย์ด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า   ข้อมูลล่าสุดรายงานว่า มีชาวอัฟริกันในประเทศต่างๆ ได้รับพระกิตติคุณผ่านการประกาศของท่านแล้วถึง 100 ล้านคน

ไรน์ฮาร์ด บองเก้ ปัจจุบันท่านอายุกว่า 70 ปี  ท่านเกิดเป็นลูกของศิษยาภิบาล  ได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าเมื่ออายุ 9 ขวบให้รับใช้พระเจ้า  และก่อนที่จะเข้าสู่วัยรุ่นก็ได้การทรงเรียกให้ไปประกาศที่ทวีปอัฟริกา  ด้วยเหตุนี้ท่านจึงมีภาระใจที่แรงกล้าและถวายตัวไปทำพันธกิจที่ทวีปแอฟริกา
ตอนแรกเข้าเรียนโรงเรียนพระคัมภีร์ที่เวลล์  จบแล้วก็รับการสถาปนาแล้วก็เริ่มงานรับใ้ช้ในการเป็นศิษยาภิบาลของคริสตจักร แห่งหนึ่งในเยอรมัน  แต่ต่อมาเขาก็ออกจากคริสตจักรไปทำงานมิชชั่นที่อัฟริกา   ไรน์ฮาร์ด บองเก้นับตนเองว่าเป็น "ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ" (Evangelist) ไม่ใช่ศิษยาภิบาล

บองเก้เริ่มงานประกาศกับการใช้เต๊นท์ ซึ่งมีคนมาฟังราว 800 คน และผู้เข้าฟังก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหมื่นและหลายหมื่น  และต้องใช้ที่ประชุมกลางแจ้งครั้งแรกเมื่อมีผู้ฟังเกิน 150,000 คน ผู้ฟังก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีการประกาศครั้งหนึ่งที่ผู้เข้าฟังมีจำนวนถึง 1,600,000คน  ท่านได้ประกาศไปทั่วทวีปอัฟริกาเลยทีเดียว

นอกจากนี้ท่านยังไปประกาศยังประเทศอื่นๆ ในหลายทวีปด้วยเช่นกัน   ทุกวันนี้พันธกิจการประกาศของท่านจึงแพร่ไปทั่วโลก  ท่านได้ก่อตั้งองค์กรเพื่อการประกาศที่ชื่อว่า Christ for all Nations (CfaN)  เป็นที่ยอมรับกันว่าท่านเป็นผู้ประกาศของพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุคนี้

เป็นที่น่าสังเกตุว่าในต่างประเทศมีผู้รับใช้พระเจ้าที่ทำพันธกิจในฐานะผู้ประกาศโดยตรง เช่น บิลลี่ เกรแฮม   ไรน์ฮาร์ด บองเก้   หลุยส์ พาเลา  หรือเบนนี่ ฮินน์  เป็นต้น  แต่ในประเทศไทยไม่มีเอาเลย   ดูเหมือนผู้รับใช้ส่วนใหญ่จะรับใช้แต่ในคริสตจักรในฐานะ "ศิษยาภิบาล"  หรือ "ผู้ช่วยศิษยาภิบาล" เ่ท่านั้น   (แตกต่างหน่อยก็คงไปเป็น "อาจารย์พระคริสตธรรม")     แต่เราหา "ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ" โดยตรงไม่มีหรือแทบไม่มีเลย   ผู้ประกาศที่จะไปจัดการประกาศตามท้องถิ่นต่างๆ  รับเชิญไปช่วยคริสตจักรที่เมืองต่างๆ ไปทั่ว  โดยคริสเตียนหรือคริสตจักรต่างๆ ก็ช่วยสนับสนุนการเลี้ยงชีพของผู้่ประกาศท่านนั้นอย่างสมควร  ให้ท่านสามารถรับใช้ในฐานะ "ผู้ประกาศ" โดยตรงต่อไปได้เรื่อยๆ   โดยไม่จำเป็นต้องเป็นศิษยาภิบาล  

ผู้เขียนเคยถามคำถามกับผู้รับใช้หลายท่านว่า ทำไมประเทศไทยไม่มีผู้ประกาศโดยตรงอย่าง บิลลี่ เกรแฮม หรือไรน์ฮาร์ด บองเก้  ท่านเหล่านั้นบอกตรงกันว่า แล้วใครจะดูแลการเลี้ยงชีพ   ที่ผู้รับใช้ต้องอยู่ในคริสตจักรก็เพราะหวังให้คริสตจักรดูแลการเลี้ยงชีพให้  ฟังแล้วก็ได้แต่อึ้ง!!  

บางคนก็พูดถึงปัญหาอีกประการด้วยว่า พอผู้รับใช้ที่มีของประทานในการประกาศไปสังกัดคริสตจักรใดคริสตจักรหนึ่ง  คริสตจักรอื่นก็ไม่อยากเชิญไปช่วย  เพราะเกรงว่าผู้รับเืชื่อจะตามไปอยู่ที่โบสถ์ของผู้ประกาศท่านนั้น

คนก็เลยบอกว่า สุดท้ายการประกาศของคนไทยจึงมักต้องใช้วิธีการเชิญผู้ประกาศจากต่างประเทศมา เพราะสองสาเหตุ หนึ่้งคือเมืองไทยไม่มีผู้ประกาศโดยตรง  กับสอง ไม่ต้องกลัวเรื่องผู้เชื่อจะตามไปโบสถ์    เหตุผลแปลกดี!

เรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนนึกถึงผู้รับใช้ท่านหนึ่งที่ได้รู้จักที่ภาคเหนือ ชื่อ อาจารย์รีวัฒน์  ท่านประกาศตัวชัดเจนเลยว่าท่านเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ  และเน้นการรักษาโรคและขับผีด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า  ท่านเป็นอิสระจากคริสตจักรท้องถิ่น  และยินดีไปช่วยทุกที่ทุกคริสตจักร  (ลองดูเว็บไซท์ http://www.idmt.org) 

รู้สึกดีใจที่ประเทศไทยมีผู้รับใช้แบบนี้ด้วย  เชื่อว่ายังมีท่านอื่นๆ อีก และไม่ค่อยเป็นที่รับรู้กัน  
อยากให้ประเทศไทยมีผู้ประกาศมากขึ้นครับ

สวัสดี

------------------
อ่านบทความเกี่ยวข้อง : คริสตจักรต้องการมากกว่า "ศิษยาภิบาล"