
หลักธรรมาภิบาลนั้นดีอย่างไร หลักธรรมภิบาลช่วยทำให้องค์กรสะอาดและชอบธรรมในสายตาทั้งจากสมาชิกใน องค์กรเองและจากบุคคลภายนอกที่มาองเข้ามาที่องค์กร และนอกจากนั้นแล้ว ยังจะสามารถเป็นพื้นฐานในการเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในการทำงานได้ จึงเป็นหลักที่ควรนำมาใช้เป็นหลักพื้นฐานในการบริหารคริสตจักรได้อย่างดี ร่วมไปกับการบริหารคริสตจักรในทุกๆด้าน
ประโยชน์ที่จะได้รับ
1.ประโยชน์คริสตจักรจะได้รับประโยชน์ด้าน
1.1 การได้รับความรู้สึกไว้วางใจจากสมาชิกคริสตจักร
1.2 สร้างแนวการปฏิบัติงานในคริสตจักรที่มีความสะอาดแก่เจ้าหน้าที่ ให้อยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ของทุกฝ่าย
1.3 ป้องกันความไม่โปร่งใสในการใช้ทรัพยากรของคริสตจักร เช่นเงิน และ อื่นๆ

2.ประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ
2.1 Trust: ความมั่นใจในคริสตจักรที่ตัวเองร่วมประชุมนมัสการว่าเป็นคริสจักรที่ดี
2.2 Loyalty: ความภักดีต่อผู้นำและคริสตจักรและผูกพันธ์มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น
2.3 Participation: สมาชิกปรารถนาจะมีส่วนร่วมในงานรับใช้ ทุ่มเท เมื่อโอกาสมาถึง
2.4 และที่สำคัญสุดท้าย สมาชิกรู้สึกสบายใจที่จะถวายทรัยพ์เพื่อสนับสนุนงานคริสตจักร
หลักธรรมาภิบาลนั้น มีหลักพื้นฐานอยู่ 6 ประการ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการบริหารคริสตจักรได้ไม่ยาก
1. หลักนิติธรรม ได้แก่การเขียนธรรมนูญของคริสตจักร และกฏระเบียบปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน และถูกต้อง เพื่อให้ทุกคนได้เห็นและเข้าใจ จะได้ไม่เกิดข้อสงสัยในการปฏิบัติของคริสตจักร และ ได้รับการยอมรับทั้งจากบุคคลภายในและภายนอก
2.หลักความโปร่งใส คือการสร้างความไว้วางใจซึ่งกัน ผ่านการสำแดง หรือช่องทางในการแสดงรายละเอียดของการเงิน การทำงาน ที่จำเป็นและเหมาะสมแก่ผู้ที่สนใจความเคลื่อนไหวในคริสตจักร อย่างตรงไปตรงมา ตามข้อเท็จจริง โดยสร้างกระบวนการตรวจสอบที่สามารถทำได้จากสมาชิก
3.หลักการมีส่วนร่วม ได้แก่ การเปิดโอกาสให้สมาชิกได้รับรู้ ได้ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมเสนอ คริสตจักรต้องจัดเวทีให้แก่สมาชิก เพื่อเอื้อแก่การมีส่วนร่วมจาก เท่าที่จะทำได้ สิ่งที่ส่งผลดีก็คือ สมาชิกจะรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของคริสจักรร่วมกัน ผ่านการเปิดเวทีให้สมาชิก
4.หลักความรับผิดชอบ ได้แก่ การให้ผู้ที่มีความรับผิดชอบในเรื่องการเงินและอื่นๆ สามารถเปิดช่องให้มีเวที ในการสอบถามการใช้จ่ายของคริสตจักร และความชัดเจนของรายรับรายจ่าย และ การใช้ทรัพยากรอื่นๆ เพื่อให้สมาชิกเกิดความสบายใจทั้งต่อทรัพย์สิน และ บุคคลที่สมาชิกไว้วางใจ
5.หลักความคุ้มค่า ได้แก่ การที่ให้ผู้มีความรับผิดชอบในการคิดวางแผนในการใช้ทรัพยากรของคริสตจักร ทั้งเงิน และอื่นๆ คิดถึงความคุ้มค่าของเงินสมาชิกที่ได้รับถวายมาใช้ในคริสตจักร ว่างบประมาณที่ได้มาจะช่วยดวงจิตวิญญาณของสมาชิกอย่างไร หรือ เพื่อการประกาศความรอด อย่างไร มีการจัดสรรที่เหมาะสมและใช้อย่างรอบคอบ มากกว่าการใช้ซื้อเครื่องอำนวยความสะดวก
6.หลักคุณธรรม ได้แก่การยึดความถูกต้องตามหลักพระวจนะในการทำงานของคริสตจักรในเจ้าหน้าที่ทุกระดับ โดยเห็นแก่ประโยชน์ของพระราชกิจของพระเจ้า และสมาชิกทุกคนเป็นสำคัญ โดยไม่มีนัยประโยชน์อื่นๆซ่อนเร้น
สรุป หลักธรรมาภิบาลนี้เป็นหลักที่สามารถปฏิบัติได้ไม่ยาก และ เป็นประโยชน์อย่างมากในการบริหารคริสตจักร ไม่ว่าคริสตจักรเล็กหรือใหญ่ก็สามารถประยุกต์ใช้ได้ ผมเชื่อว่าคริสตจักรหลายแห่งก็ได้ใช้หลักนี้ในการบริหารงานคริสตจักรอยู่แล้ว แต่การนำมาพูดถึงอีกครั้ง อาจจะช่วยให้คริสตจักรอีกหลายแห่งที่ยังไม่ทราบ จะได้ประโยชน์จากหลักธรรมภิบาลนี้ครับ และแม้คริสตจักรที่รู้แล้ว ก็สามารถนำกลับมาทบทวนกระบวนการบริหารอีก เผื่อว่าจะมีอะไรที่สามารถปรับที่ดีอยู่แล้ว ให้ดีขึ้นอีกครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
นี่เป็นเวทีเสรีแต่โปรดสุภาพและไม่พาดพิงผู้อื่นอย่างไร้จริยธรรม รวมทั้งสนับสนุนให้ระบุชื่อจริง กองบก.ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความและความคิดเห็นอีกทั้งอาจลบหรือแก้ไขหากเห็นว่าไม่เหมาะสม ส่งความคิดเห็นโดยตรงต่อกองบก.ได้ที่ networkchurchministry@gmail.com