จากหนังสือซึ่งเป็นผลงานวิจัยของ Christian Schwarz และสถาบันพัฒนาคริสตจักร (Institute of Church Development)
เนื้อหาเป็นการวิจัยจาก 1,000 คริสตจักร ใน 32 ประเทศ ทั่วทั้ง 5 ทวีป ในปี 1994-1996
และค้นพบถึงหลักของการเพิ่มพูนคริสตจักรหรือการทำให้คริสตจักรเติบโตดังนี้
และค้นพบถึงหลักของการเพิ่มพูนคริสตจักรหรือการทำให้คริสตจักรเติบโตดังนี้
หลักการพื้นฐานคือ ทุกคริสตจักรมีศักยภาพที่จะเติบโต คริสตจักรเปรียบได้เหมือนสิ่งมีชีวิต ถ้าสภาพแวดล้อมดี ย่อมต้องเติบโตแน่นอน การไม่เติบโตแสดงว่ามีสิ่งผิดปกติ
งานวิจัยนี้ได้พบว่าคุณลักษณะสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของคริสตจักรมี 8 ประการ และนี่เป็นคุณลักษณะที่จะทำให้คริสตจักรเจริญเติบโต และทั้่ง 8 คุณลักษณะนี้จะต้องถูกทำให้เกิดขึ้นในคริสตจักรอย่างครบถ้วนสมดุล
การตั้งเป้าหมายในเชิงปริมาณคนมาคริสตจักร อาจไม่ได้ช่วยให้เห็นการเจริญเติบโตได้จริง ตรงกันข้าม อาจจะช่วยมากขึ้น ถ้าตั้งเป้าหมายในมิติคุณภาพของคุณลักษณะทั้ง 8 ประการ (เช่น ภายในเดือนมีนาคม 80% ของสมาชิกจะรู้จักของประทานของตนเอง)
พบว่า คริสตจักรใหญ่ๆ มีแนวโน้มจะมีปัญหาคุณภาพชีวิตของคริสตจักรลดลงมากกว่าคริสตจักรเล็กๆ และพบว่า คริสตจักรขนาดประมาณ 100 คน จะมีอัตราการเจริญเติบโตสูงสุด
และพบว่า คุณลักษณะที่สำคัญของแต่ละคริสตจักรจะแตกต่างกัน และพบอีกว่า คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลให้เกิดการเติบโต มักจะเป็นคุณลักษณะที่เป็นจุดอ่อนของคริสตจักรนั้นๆ
ต่อไปนี้ไปเรื่องของคุณลักษณะ 8 ประการของชีวิตคริสตจักรที่จะทำให้คริสตจักรเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ
คุณลักษณะ 8 ประการของชีวิตคริสตจักร
(8 QUALITIES OF CHURCH LIFE)
1. EMPOWERING LEADERSHIP (มีผู้นำที่ส่งเสริมคนรอบตัวในการรับใช้ ฝึกฝน สนับสนุน และหนุนใจ)
- ผู้นำใช้เวลาจำนวนมากกับการสร้างสาวกและการกระจายงาน
- คริสตจักรต้องไม่มีแต่ผู้นำที่เป็นพวกทำตัวเด่นคนเดียว และทำงานคนเดียว
- ผู้นำแบบนี้ต้องมุ่งเป้าหมายและแสวงหาการสนับสนุนจากรอบตัว
- เป็นผู้นำที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสัมพันธ์รอบตัว
- วางแผนการทำงานบนพื้นฐานศักยภาพของสมาชิกที่มีอยู่ (ตัดเสื้อพอดีตัว)
- คริสตจักรจะเจริญเติบโตและมีคุณภาพ เมื่อสมาชิกได้รับใช้ตามทักษะและความถนัดของตน
- มีความร้อนรนในความเชื่อ ทั้งในชีวิตส่วนตัวและในคริสตจักร
- พบว่า สมาชิกที่มักมีความคิดแผลงๆ / แหวกแนว จะมีความกระตือรือร้น และคนพวกนี้อาจก่อให้เกิดการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
- ความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับพระเจ้า ไม่ใช่เพียงผ่านกิจกรรมหรือผ่านการท้าทายเท่านั้น
- พบว่ามีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างการไม่เจริญเติบโตของคริสตจักร กับความรู้สึกของสมาชิกว่าคริสตจักรยึดติดกับประเพณีจนมากเกินไป
- โครงสร้างต้องสนับสนุนให้เกิดการรับใช้
5. INSPIRING WORSHIP (มีการนมัสการที่ดลจิตดลใจ)
7. NEED-ORIENTED EVANGELISM (ประกาศโดยตอบสนองความต้องการ)
8. LOVING RELATIONSHIP (มีความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรัก)
- การนมัสการไม่ได้เน้นที่พิธี แต่มีผลกระทบต่อจิตใจผู้นมัสการ
- ไม่เห็นด้วยกับการจัดการนมัสการแบบ Seeker Services ของ Willow Creek Community Church
- ยิ่งคริสตจักรใหญ่ขึ้น กลุ่มย่อยยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น
- ไม่เพียงแค่การศึกษาพระคัมภีร์หรืออธิษฐานกัน แต่กลุ่มฯ จะไปถึงจุดที่มีการสนทนาเชิงลึกในเรื่องความเชื่อ จนถึงประเด็นส่วนตัวของสมาชิกในกลุ่ม
- ต้องส่งเสริมการขยายกลุ่มฯ ด้วยการแบ่งกลุ่มฯ
7. NEED-ORIENTED EVANGELISM (ประกาศโดยตอบสนองความต้องการ)
- ไม่ใช่สมาชิกทุกคนจะมีของประทานการประกาศ จึงไม่ควรจะผลักดันให้ทุกคนประกาศในรูปแบบของคนที่มีของประทานการประกาศ
- ควรส่งเสริมให้สมาชิกได้ใช้ช่องทางความสัมพันธ์ที่ตนมีอยู่เพื่อก่อให้เกิดการประกาศ
- การประกาศควรมุ่งเน้นที่ความต้องการส่วนตัวและคำถามที่ผู้สนใจให้ความสนใจ
8. LOVING RELATIONSHIP (มีความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรัก)
- พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการเจริญเติบโตของคริสตจักร กับการใช้เวลาระหว่างสมาชิกกันเองนอกกิจกรรมที่คริสตจักรจัดขึ้น
- พบอีกว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างเสียงหัวเราะกับการเจริญเติบโตของคริสตจักร
ท่านสามารถดาวโหลดเนื้อหาเต็มในฉบับภาษาอังกฤษได้ คลิกที่นี่
ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์ (Th.D)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
นี่เป็นเวทีเสรีแต่โปรดสุภาพและไม่พาดพิงผู้อื่นอย่างไร้จริยธรรม รวมทั้งสนับสนุนให้ระบุชื่อจริง กองบก.ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความและความคิดเห็นอีกทั้งอาจลบหรือแก้ไขหากเห็นว่าไม่เหมาะสม ส่งความคิดเห็นโดยตรงต่อกองบก.ได้ที่ networkchurchministry@gmail.com