คริสตจักรแบบเครือข่าย หรือ Network Church คืออะไร
รูปแบบแรก คือแบบ House Church Network (คริสตจักรเครือข่ายบ้าน) หรือกลุ่มคริสตจักรตามบ้านที่มีการเชื่อมโยงกัน ช่วยเหลือกัน และรวมตัวนมัสการด้วยกันอย่างสม่ำเสมอ อาจรวมตัวกันทุกสัปดาห์หรือเดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง ก็แล้วแต่ตกลงกัน โดยอาจไปเช่าหรือใช้สถานที่ที่ใดที่หนึ่ง และทั้งหมดเคลื่อนเสมือนเป็นคริสตจักรเดียวกัน รูปแบบนี้มักเป็นกรณีของการทำกลุ่มคริสตจักรตามบ้าน(หรือตามที่ต่างๆ)ที่ไม่มีอาคารสถานที่เป็นของตนเอง
รูปแบบที่สอง คือแบบ Building-Shared Network Church (คริสตจักรเครือข่ายแบ่งปันสถานที่) เป็นกรณีของคริสตจักรแห่งหนึ่งมีสถานที่ของตน แต่มีใจกว้างเปิดให้คริสตจักรอื่นๆ หรือผู้รับใช้อื่นๆ ที่ไม่มีอาคารสถานที่ มาร่วมใช้นมัสการ โดยทำได้หลายรูปแบบ เช่น
อาจแบ่งใช้คนละห้อง แบ่งใช้คนละเวลา หรือแบ่งใช้คนละวัน ซึ่งแต่ละรอบก็ไม่จำเป็นต้องมีสไตล์เหมือนกัน หรือยังอาจมีรอบรวมที่ทุกรอบมารวมตัวกันเป็นครั้งคราว
หรือยังทำได้ขนาดว่าทุกคริสตจักรมานมัสการร่วมกันในรอบเดียวกันตลอด โดยผลัดกันเทศนา ผลัดกันนำ ส่วนในเรื่องเงินถวายก็สามารถใช้การแยกซองถวาย ส่วนหน้าที่รับผิดชอบและค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ช่วยเหลือกันตามน้ำใจ ตามกำลังและความเหมาะสม และทั้งหมดเคลื่อนเสมือนเป็นคริสตจักรเดียวกัน
รูปแบบที่สาม คือแบบ Cooperative Church Network (คริสตจักรเครือข่ายหุ้นส่วนหรือแบบสหกรณ์) เป็นกรณีของคริสตจักรหลายๆ แห่งที่ต่างก็มีอาคารสถานที่ของตนเอง แต่ได้ร่วมมือกันอย่างลึกซึ้ง เช่น รวมงบประมาณกัน แบ่งปันบุคคลากรกัน ร่วมนโยบายแผนงานและกิจกรรมด้วยกัน ฯลฯ หรือบางที่ก็เป็นรูปแบบของ Satellite Church คือ ถ่ายทอดสดคำเทศนาไปยังคริสตจักรในเครือข่าย และทั้งหมดเคลื่อนเสมือนเป็นคริสตจักรเดียวกัน
นอกจากสามแบบนี้แล้วก็เชื่อว่ายังสามารถมีรูปแบบอื่นๆ เกิดขึ้นได้อีก เช่น คริสตจักรทางอินเทอเน็ต ที่ให้มวลสมาชิกนมัสการและฟังเทศน์ด้วยกันผ่านทางการถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ตหรือการใช้โปรแกรมSkype
และนี่ก็ยังไม่รวมถึงกรณีที่คริสตจักรย่อยๆ เหล่านี้เกิดความผูกพันกันแล้วหลอมรวมเป็นคริสตจักรเดียวกัน (church merge) ซึงก็กำลังเกิดมากขึนเรือยๆ ในต่างประเทศเช่นกัน และเป็นที่ยอมรับกันในหมูนักพันธกิจวิทยาว่า การรวมคริสตจักรทำให้เกิดความเข้มแข็งมากขึ้น (ปกติในประเทศไทยเรามักพบแต่คริสตจักรแตก หรือ church split แต่ยังไม่เคยมีคริสตจักรรวมเลย)
จุดแข็งของคริสตจักรแบบครือข่าย ไม่วาจะเป็นแบบใดก็คือ
1. มุ่งสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่พี่น้องผู้รับใช้และคริสเตียน ซึ่งสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์ และไม่ใชการเพียงการรวมตัวอย่างผิวเผินหรือเฉพาะกิจเท่านั้น และยังเน้นถึงการไม่เน้นการแบ่งแยกความเป็นคริสตจักรท้องถิ่น แต่เน้นการร่วมเป็นพระกายของพระคริสต์ หรือเป็น "คริสตจักรเพื่อแผ่นดินพระเจ้า" (Church for the Kingdom) มากกว่าคริสตจักรของตนและพวกพ้องของตนหรืออาณาจักรของตน
2. เกิดพลังและความอบอุ่น ทั้งในการนมัสการ การอธิษฐาน การสามัคคีธรรม และการรับใช้ รวมตัวกันมากก็เกิดพลังมาก
3. เกิดการร่วมมือและแบ่งปันของประทานและทรัพยากร ที่จะทำำให้งานของพระเจ้าคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คริสตจักรทีแข็งแรงและที่อ่อนกำลังก็จะได้ชวยเหลือซึงกันและกัน และคริสตจักรที่อ่อนกำลังหลายแหงเมื่อร่วมมือกันก็จะเข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งข้อนี้ยังรวมถึงการช่วยทำให้เกิดความคุ้มค่าและลดภาระค่าใช้จ่ายเกียวกับเรืองสถานทีนมัสการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกด้วย
4. ทำให้การตั้งคริสตจักรเป็นเรื่องง่ายขึ้น และผู้ตั้งคริสตจักรจะีมีมากขึ้น การที่ทำให้เกิดความคุ้มค่าและลดภาระค่าใช้จ่ายเช่นนี้ยังจะส่งผลต่อเนื่องอีกคือ ทำให้การตั้งคริสตจักรกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก ใครๆ ก็ตั้งคริสตจักรได้ จะตั้งที่ไหนและเมื่อไรก็ได้ สิ่งนี้ก็ย่อมจะทำให้เกิดการเพิ่มพูนคริสตจักรอย่างรวดเร็ว คนจำนวนมากก็จะได้รับความรอดอย่างรวดเร็วเช่นกัน
5. เกิดคริสตจักรที่สามารถรองรับผู้คนได้ตลอดเวลา และรองรับผู้คนทุกรูปแบบ ขอยกตัวอย่างเช่น คริสตจักรแบบเครือข่ายบางแห่งในสหรัฐ มีขนาดใหญ่มาก มีห้องนมัสการหกห้อง ทุกห้องนมัสการไปพร้อมๆ กัน แต่ละห้องนมัสการต่างสไตล์กัน เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มผู้ฟังที่แตกต่างกัน แต่ฟังเทศน์ถ่ายทอดจากห้องเดียวกัน (หรือจะแยกผู้เทศนาของแต่ละห้องก็ได้) นอกจากนี้ยังมีการนมัสการหลายๆ รอบ มีนมัสการใ นวันอื่นๆ ระหว่างสัปดาห์ด้วย เพื่อรองรับกลุ่มคนที่ไม่สามารถมานมัสการในวันอาทิตย์ได้ และในที่สุด คริสตจักรแบบเครือข่ายก็จะสามารถกลายเป็น "คริสตจักรของทุกคน ทุกที่ และทุกเวลา"
ในโลกนี้กำัลังเกิด Network Church หรือคริสตจักรแบบเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่คริสตจักรต่างๆต้องลงทุนซื้อที่ดินและสร้างอาคารคริสตจักร ซึ่งก็จะเป็นไปได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะราคาที่ดินหรือค่าเช่าแพงขึ้นมาก หลายคริสตจักรในโลกตะวันตกคริสตจักรต้องปิดตัวเพราะไม่สามารถจ่ายหนี้ที่กู้ธนาคารมาก่อสร้างคริสตจักรได้ หรือไม่สามารถจ่ายค่าดูแลรักษาอาคารได้ หรือไม่ก็ทุ่มเทเงินไปกับเรื่องอาคารสถานที่จนแทบไม่เหลือสำหรับเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐ มิชชั่น และการสนับสนุนผู้รับใช้ ในขณะที่ หลายๆ คริสตจักรต่างก็ต้องแบกภาระมหาศาลในการซื้อหรือเช่าสถานที่ทั้งๆ ที่คริสตจักรก็อยู่ใกล้กัน และต่างก็ยังใช้ไม่คุ้มค่าอยู่แล้ว
ศิษยาภิบาลบางท่านในต่างประเทศถึงกับกล่าวว่า "คริสตจักรในยุคสุดท้ายควรจะทุ่มเทเงินเพื่อสร้างอาคาร ซึ่งก็จะใช้ไม่คุ้มอยู่ดี หรือควรจะทุ่มเทเพื่อนำคนเข้าแผ่นดินสวรรค์"
ในประเทศไทย ก็ได้เริ่มมีคริสตจักรบางแห่งที่มีภาระใจที่จะทำคริสตจักรแบบเครือข่ายแล้ว จนถึงขั้นที่ได้เปิดเป็นศูนย์คริสตจักรเครือข่าย (Network Church Center) ซึ่งเชื่อว่าในประเทศไทยจะมีคริสตจักรแบบเครือข่ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
เชื่อว่า นี่เป็น "อีกช่องทางหนึ่ง" ที่จะทำให้แผ่นดินของพระเจ้าขยายออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ
5. เกิดคริสตจักรที่สามารถรองรับผู้คนได้ตลอดเวลา และรองรับผู้คนทุกรูปแบบ ขอยกตัวอย่างเช่น คริสตจักรแบบเครือข่ายบางแห่งในสหรัฐ มีขนาดใหญ่มาก มีห้องนมัสการหกห้อง ทุกห้องนมัสการไปพร้อมๆ กัน แต่ละห้องนมัสการต่างสไตล์กัน เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มผู้ฟังที่แตกต่างกัน แต่ฟังเทศน์ถ่ายทอดจากห้องเดียวกัน (หรือจะแยกผู้เทศนาของแต่ละห้องก็ได้) นอกจากนี้ยังมีการนมัสการหลายๆ รอบ มีนมัสการใ นวันอื่นๆ ระหว่างสัปดาห์ด้วย เพื่อรองรับกลุ่มคนที่ไม่สามารถมานมัสการในวันอาทิตย์ได้ และในที่สุด คริสตจักรแบบเครือข่ายก็จะสามารถกลายเป็น "คริสตจักรของทุกคน ทุกที่ และทุกเวลา"
สรุป
ในโลกนี้กำัลังเกิด Network Church หรือคริสตจักรแบบเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่คริสตจักรต่างๆต้องลงทุนซื้อที่ดินและสร้างอาคารคริสตจักร ซึ่งก็จะเป็นไปได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะราคาที่ดินหรือค่าเช่าแพงขึ้นมาก หลายคริสตจักรในโลกตะวันตกคริสตจักรต้องปิดตัวเพราะไม่สามารถจ่ายหนี้ที่กู้ธนาคารมาก่อสร้างคริสตจักรได้ หรือไม่สามารถจ่ายค่าดูแลรักษาอาคารได้ หรือไม่ก็ทุ่มเทเงินไปกับเรื่องอาคารสถานที่จนแทบไม่เหลือสำหรับเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐ มิชชั่น และการสนับสนุนผู้รับใช้ ในขณะที่ หลายๆ คริสตจักรต่างก็ต้องแบกภาระมหาศาลในการซื้อหรือเช่าสถานที่ทั้งๆ ที่คริสตจักรก็อยู่ใกล้กัน และต่างก็ยังใช้ไม่คุ้มค่าอยู่แล้ว
ศิษยาภิบาลบางท่านในต่างประเทศถึงกับกล่าวว่า "คริสตจักรในยุคสุดท้ายควรจะทุ่มเทเงินเพื่อสร้างอาคาร ซึ่งก็จะใช้ไม่คุ้มอยู่ดี หรือควรจะทุ่มเทเพื่อนำคนเข้าแผ่นดินสวรรค์"
ในประเทศไทย ก็ได้เริ่มมีคริสตจักรบางแห่งที่มีภาระใจที่จะทำคริสตจักรแบบเครือข่ายแล้ว จนถึงขั้นที่ได้เปิดเป็นศูนย์คริสตจักรเครือข่าย (Network Church Center) ซึ่งเชื่อว่าในประเทศไทยจะมีคริสตจักรแบบเครือข่ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
เชื่อว่า นี่เป็น "อีกช่องทางหนึ่ง" ที่จะทำให้แผ่นดินของพระเจ้าขยายออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โดย ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์ (Th.D)
สวัสดีค่ะ
ตอบลบดิฉันมีคำถามที่อยากถาม 1 คำถามว่า
"ผู้หญิงสามารถก่อตั้งคริสตจักรเครือข่ายได้ไหมคะ?" "คริสตจักรเครือข่ายมีแนวคิดอย่างไรกับการที่ผู้หญิงจะเป็นผู้นำหรือศิษยาภิบาลคะ?"
ขอบคุณมากนะคะ
ขอพระเจ้าอวยพระพรค่ะ
สิริรัตน์ ภู่ชัย
ขอสนับสนุนแนวคิด ของคริสตจักรแบบเครือข่าย อย่างเต็มที่เลยครับ นี่แหละภาพฝันที่ผมอยากเห็นมานานแล้ว เพิ่งรู้ว่ามีคนคิดเหมือนเราด้วยหรือนี่ เพราะเท่าที่ผ่านมาเคยได้ยินได้พบได้เห็นแต่ คริสตจักรส่วนมากจะพยายามสร้างแต่อาณาจักรของตัวเอง(ส่วนตัว)สมาชิกต่างคริสตจักรกันคบกันหรือมีความสัมพันธ์กันแบบแกนๆ กั๊กๆ เอาไว้ ไม่เปิดใจทั้งหมดกลัวเสียเหลี่ยมหรืออย่างไรไม่ทราบ
ตอบลบขอเป็นกำลังใจให้ครับ อาจารย์ และผมอยากเปิดบ้านเป็นคริสตจักรเครื่อข่ายด้วยขอคำชี้แนะและช่วยหาพันธมิตรให้ด้วยนะครับ
from Somjai Raksasee
ตอบลบเรียน ดร. ศิลป์ชัย
ขอบคุณมากที่ได้อธิบายถึง Networking church เป็นประโยชน์ครับ และชัดเจนดี
from Abagus Prophet idmcteam@gmail.com
ตอบลบกราบเรียน ท่านอาจารย์ ด๊อกเตอร์ศิลป์ชัย ที่เคารพรักในพระคริสต์
...ผมขอสนับสนุนแนวคิดคริสตจักร เครือข่ายของท่านอย่างมาก เพราะผมก็เป็นคนที่ไปร่วมกับโบสถ์ต่างๆ มาหลายแห่ง แต่ไม่ได้เห็นความพยายามในการขยายอาณาจักรของพระเจ้ามากนัก เมื่อผมโตในความเชื่อมากขึ้น จึงออกมาตั้งคริสตจักรบ้านที่ยังไร้สังกัด
เพราะการทำงานด้านปลดปล่อยคริสตจักรในเชียงราย ยังไม่มีคณะใดทำ และพวกเขายังรับไม่ได้
ผมขอชื่นชม และให้กำลังใจท่าน และจะอธิษฐานเผื่อท่านอาจารย์
ขอพระเจ้าเสริมกำลัง และ ชาโลมๆ นะครับ
อ. รีวัฒน์ เมืองสุริยา
ครู คศ. ๓ โรงเรียนแม่จันวิทยาคม
--
นอกจากผมจะทำหน้าที่เป็นอาจารย์แล้ว ผมยังทำกิจกรรมพิเศษ คืออธิษฐานเผื่อคนเจ็บป่วยที่รักษายาก หรือเป็นๆ หายๆ อาการหนักไหล่ หนักหลัง ปวดทุกชนิด ขับวิญญาณ ช่วยปลดปล่อยคนออกจากความกลัว อาการทางจิตที่ติดตัว อาการถูกวิญญาณรบกวน สิ่งเหล่านี้ฟังดูเหมือนเหลวไหล หากท่านสนใจเรื่องนี้ลองอ่านบันทึกกิจกรรม ความคิดเห็น ข้อสังเกตและประสบการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ http://reewat.blogspot.com
from † A J Tand FM 87.5 MHz TrueloveRadio วิทยุคริสเตียน คริสตจักรเครือข่าย subpong1@hotmail.com
ตอบลบsubject แจ้งขอร่วมเป็นคริสตจักรแบบเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดแพร่
ขอบคุณพระเจ้าผมได้ติดตามเรื่องราวมาตลอดระยะเวลา เกือบ 3 ปี เกี่ยวกับคริสตจักรเครื่อข่าย และในทีสุดพระเจ้าก็ให้เครืองมือในการทำคือ สถานีวิทยุ 2 แห่ง ที่ อ. เมือง และ อ. สอง ( พร้อมจะเป็นคริสจักรมีอาคารพร้อมแบบไม่ต้องเช่าอยู่ตรงข้าม ธกส. สอง.) และตอนนี้ ก็ กำลังประชาสัมพันธ์ แนวคิดทั้ง 3 แบบ ของคริสจักรแบบเครือข่าย ให้พี่น้องคริสเตียนฟังทางสถานีวิทยุ และ คนสนใจทั่วไป เพื่อให้ สถานีของเราได้มีหลักที่ชัดเจนถูกต้อง จึงขอคำแนะนำ ถึงการปฏิบัติที่ถูกต้องต่อไป
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
นายสืบพงศ์ อินทรวิพันธ์
นายสถานีวืทยุกระจายเสียงชุมชน
คริสเตียน Trueloveradio 89.5MHz
http://trueloveradio.myreadyweb.com/
It is interesting i set up home church for 2 years already.I just found your web. Thanks a lot. God bless your ministry
ตอบลบDear ...
ตอบลบWould you please give us your address, email or phone number which we could contact? Thanks highly.
networkchurchthai@gmail.com