โครงการ "ยกวัดมาไว้เซเว่น" โดยบริษัทซีพี |
ลองนึกภาพว่า ถ้ายกคริสตจักรมาไว้ในบริษัทห้างร้านหรือในโรงงานล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น! คริสตจักรในบริษัทห้างร้าน และ คริสตจักรในโรงงาน ก็คืออีกรูปแบบของคริสตจักรที่ดำิเนินการอยู่ในที่ทำงาน มักเรียกกันเป็นศัพท์เทคนิคว่า Marketplace Church ซึ่งก็แล้วแต่ว่าที่ทำงานนั้นเป็นอะไร
ในประเทศตะวันตก แนวคิดเรื่อง Marketplace Ministry หรือพันธกิจในที่ทำงานหรือพันธกิจในภาคธุรกิจกำลังเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างมากว่า นี่เป็นกลไกที่สำคัญสำหรับงานของพระเจ้า แต่ถูกมองข้ามมาโดยตลอด ทุกวันนี้จึงมีคริสตชนที่อุทิศตัวเข้าสู่พันธกิจชนิดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จึงเริ่มเกิดคริสตจักรในบริษัทห้างร้าน และคริสตจักรในโรงงานอุตสาหกรรม
ที่ทำงานและโรงงานหลายแห่งที่เจ้าของเป็นคริสตชนได้ตั้งคริสตจักรในสถานที่ของตนขึ้นมา โดยบางที่ก็นมัสการโดยใช้ห้องประชุมที่ทางบริษัทหรือโรงงานมีอยู่อยู่แล้ว แต่บางที่ทางเจ้าของธุรกิจถึงกับสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในการนมัสการโดยเฉพาะ
แต่ก็มีเหมือนกันที่เจ้าของบริษัทหรือโรงงานไม่ได้เป็นคริสตชน แต่พนักงานที่เป็นคริสตชนก็ขออนุญาตใช้ห้องประชุมหรือพื้นที่บางจุดทำการนมัสการในกลุ่มของตนขึ้นมา ซึ่งก็ได้รับอนุญาตและบางทีถึงกับได้รับการสนับสนุนงบประมาณด้วยซ้ำ เพราะเจ้าของบริษัทหรือโรงงานถือว่ากิจกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมจริยธรรมและความสามัคคีให้กับพนักงานของเขา
แน่นอนว่าเรื่องนี่้ก็เป็นเรื่องที่อ่อนไหวอยู่เหมือนกัน เพราะในที่ทำงานหรือโรงงานทุกแห่ง ก็ย่อมจะมีพนักงานทั้่งที่เชื่่อพระเจ้าและไม่เชื่อพระเจ้าด้วย การทำพันธกิจในที่ทำงานก็ต้องระมัดระวังมิฉะนั้นก็อาจเกิดปัญหาเรื่องการรบกวนการทำงานทั้งของตนเองและผู้อื่น ความไม่ยุติธรรมหรือการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุอคติทางศาสนาและความเชื่อส่วนบุคคล (Discrimination) ซึ่งอาจก่อปัญหาทางกฏหมายได้ แต่เรื่องนี้หากทำด้วยความเข้าใจก็ย่อมจะไม่มีปัญหาอะไร
ผู้เขียนเองเคยไปเทศนาในคริสตจักรในโรงงานในต่างประเทศหลายครั้ง ที่หนึ่งที่ประทับใจมากคือที่ประเทศไต้หวัน เป็นโรงงานผลิตกระจกรถยนต์ส่งให้กับรถยนต์หลายยี่ห้อ เช่น โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ และส่งให้กับหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย เจ้าของโรงงานเป็นคริสเตียนที่รักพระเจ้ามาก จึงสร้างห้องประชุมนมัสการไว้บนโรงงานชั้นบนสุด และตกแต่งอย่างดีเยี่ยม จนต้องยอมรับว่าห้องประชุมของคริสตจักรในโรงงานที่นั่นสวยงามและระบบต่างๆ เพียบพร้อมมากกว่าคริสตจักรทั่วไปมากทีเดียว
และทางเจ้าของโรงงานก็จะกำหนดวันที่จะให้พนักงานที่เป็นคริสเตียนมาร่วมนมัสการ ขณะเดียวกันก็เชิญชวนพนักงานที่ยังไม่รู้จักพระเจ้าให้เข้าร่วมด้วย จำได้ว่าถึงขนาดให้เลิกงานเร็วกว่าปกติเพื่อมาร่วมนมัสการ และเมื่อจบการนมัสการก็จะมีอาหารเลี้ยงพนักงานที่เข้าร่วมทุกคน
ที่น่าสนใจคือคริสตจักรในสถานที่แบบนี้สามารถช่วยให้พนักงานหลายคนสามารถเป็นคริสเตียนและร่วมนมัสการได้อย่างสม่ำเสมอและช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้นในฝ่ายจิตวิญญาณ ซึ่งหากเขาต้องไปหาคริสตจักรนมัสการเองในวันอาทิตย์ พวกเขาบอกว่าไม่สามารถไปได้ด้วยหลา่ยเหตุผลด้วยกัน อย่างแรกคือ ในละแวกที่ทำงานโดยเฉพาะโรงงาน ไม่สามารถหาคริสตจักรที่อยู่ใกล้ได้เลย สอง ในแต่ละสัปดาห์ต้องทำงานทุกวันหรือเกือบทุกวันจนไม่มีเวลาซักผ้าหรืออยู่กับครอบครัวหรือไปหาครอบครัวที่ต่างจังหวัด วันหยุดที่เหลือเพียงสัปดาห์ละวันหรือน้อยกว่านั้น หรือบางทีก็ไม่ได้หยุดวันอาทิตย์ที่โบสถ์ทั่วๆไปมักจัดนมัสการกัน ก็เลยทำให้ไม่สามารถไปคริสตจักรได้ การมีคริสตจักรในทีี่ทำงานหรือโรงงานทำให้สะดวกขึ้นมาก และเขายังคงมีวันหยุดที่สามารถไปทำกิจธุระต่างๆ ที่จำเป็นได้ด้วย
ผู้เีขียนต้องขออภัยที่ครั้งนี้ไม่สามารถหารูปมาประกอบได้ เพราะหาไม่พบ แต่ขอนำเสนอต่อเนื่องว่า แนวคิดนี้กำลังได้รับความสนใจและถูกหยิบมาใช้ในภาคธุรกิจของไทยบ้างแล้วดังตัวอย่างของบริษัทซีพี
โครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่น" จัดโดย บมจ.ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 15 ปี เพื่อเผยแผ่พระธรรมคำสอนพระพุทธศาสนา ให้กับประชาชนที่อยู่ละแวกใกล้เคียงและพนักงานที่สนใจเข้าร่วมฟัง เน้นการนั่งสมาธิ สวดมนต์ ฟังธรรมะ และก็จะมีการเชิญพระสงฆ์เวียนกันมาบรรยาย
คนล้นต้องนั่งนอกห้อง ดูวงจรปิด |
แท้จริงแล้ว ขณะนี้กำลังเริ่มเกิดคริสตจักรในบริษัทห้างร้านและคริสตจักรในโรงงานแล้วในประเทศไทย ในฐานะที่เป็นครูบาอาจารย์ก็รู้สึกชืืนชมยินดีว่ามีลูกศิษย์ลูกหาหลายคนที่เป็นนักธุรกิจและนักอุตสาหกรรมเริ่มทำคริสตจักรประเภทนี้มากขึ้น (ล่าสุดก็เป็นโรงงานทำลำโพง) ซึ่งก็จะแตกต่างกันไปตามความพร้อมของแต่ละท่านและปัจจัยประกอบอื่นๆ แต่ว่ายังมีอยู่น้อยเกินไป
อยากเห็นคริสตจักรในบริษัทห้างร้านและคริสตจักรในโรงงานเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ
สวัสดี
ข่าวประชาสัมพันธ์ :
2. ท่านที่ประสงค์จะตั้งคริสตจัักรเครือข่ายบ้านหรือคริสตจักรเครือข่ายในรูปแบบอื่นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
นี่เป็นเวทีเสรีแต่โปรดสุภาพและไม่พาดพิงผู้อื่นอย่างไร้จริยธรรม รวมทั้งสนับสนุนให้ระบุชื่อจริง กองบก.ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความและความคิดเห็นอีกทั้งอาจลบหรือแก้ไขหากเห็นว่าไม่เหมาะสม ส่งความคิดเห็นโดยตรงต่อกองบก.ได้ที่ networkchurchministry@gmail.com