ท่านที่กำลังทำหรือประสงค์จะทำคริสตจักรเครือข่ายหรือคริสตจักรเครือข่ายบ้านหรือต้องการสนับสนุน โปรดแจ้งให้ทางพันธกิจทราบเพื่อจะได้ช่วยเชื่อมโยงกับที่อื่นๆเพื่อจะช่วยเหลือกันและกันได้อย่างกว้างขวาง แจ้งมาที่ networkchurchministry@gmail.com / ดาวโหลดเอกสารแนะนำ

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คริสตจักรบ้านต้อง "ร่วมเครือข่าย" และ "มุ่งขยายเพิ่ม"

การทำคริสตจักรบ้านต้องไม่พอใจอยู่กับการอยู่เพียงลำพังในบ้านของตน  ต้องไม่เพียงพอใจกับสมาชิกที่มีอยู่   แม้ว่าเราจะรู้สึกพอใจแล้วว่าเราเป็นกลุ่มคนที่รักกันมากและถูกใจกันมากเพียงใดก็ตาม

เราจำเป็นต้องเปิดคริสตจักรบ้านให้ออกไปเพื่อ "ร่วมเครือข่าย" และ "มุ่งขยายเพิ่ม" ไปตั้งที่ใหม่ด้วย  

สาเหตุก็เพราะว่า
1. คริสตจักรบ้านมีขนาดเล็ก หากอยู่แต่ลำพังไปเรื่อยๆ แม้จะอยู่ได้แต่กำลังก็จะมีจำกัด  ไม่อาจทำพันธกิจใหญ่ได้   เราจึงต้องร่วมเครือข่ายและมุ่งขยายไปตั้งที่ใหม่เพิ่ม เพื่อเพิ่มความหลากหลายของของประทาน   และเพื่อให้ตัวเรามีกำลังมากขึ้นในการทำพันธกิจของพระเจ้า

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554

นมัสการแบบง่ายสำหรับคริสตจักรแบบง่าย (Simple Worship for Simple Church)

มีคำถามเข้ามามากว่า...

"อยากทำคริสตจักรแบบง่ายครับ แต่กลัวว่าการนมัสการจะไม่ดีเท่าคริสตจักรโบสถ์!"

"อยากทำคริสตจักรในสำนักงานค่ะ  แต่จะทำอย่างไรให้การนมัสการในกลุ่มเล็กให้รู้สึกเร้าใจเท่านมัสการที่คริสตจักรใหญ่!"

"อยากทำคริสตจักรบ้านค่ะ  แต่ไม่มีเครื่องดนตรี และไม่มีใครเล่นกีต้าร์เป็น!"

"ร้องเพลงไม่ค่อยเก่งครับ  เลยไม่กล้านำนมัสการ"

ฯลฯ

ข่าวทีวีสหรัฐรายงานเรื่องกระแสคริสตจักรบ้าน (ดูวีดีโอคลิป)


มีสื่อต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ที่รายงานเรื่องของกระแสคริสตจักรบ้าน ในวีดีโอคลิปนี้ สถานีข่าวเอ็นบีซีนิวส์ของสหรัฐได้รายงานถึงกระแสคริสตจักรตามบ้าน (ดูวีดีโอ - รายงาน ณ วันที่ 21 ต.ค 2010) โดยเนื้อข่าวรายงานว่า ในขณะที่คริสตจักรเมก้าเชิร์ชคริสตัลคาธีดรัลเข้าสู่ภาวะล้มละลาย บัดนี้ มีคนอเมริกันที่เป็นคริสเีตียนโปรเตสแต๊นท์ถึง 9 เปอร์เซ็นต์ที่นมัสการในคริสตจักรบ้านเท่านั้น (ที่ว่า "เท่านั้น" หมายความว่า คนเหล่านี้ไม่ใช่ไปคริสตจักรโบสถ์ด้วยและยังไปทำกลุ่มย่อยตามบ้านแบบกลุ่มเซลล์ด้วย แต่เป็นการนมัสการตามบ้านอย่างเดียว   โดยถือว่าบ้านเหล่านั้นเป็นคริสตจักรแล้ว และไม่ได้ไปคริสตจักรโบสถ์อีก)
ซึ่ง 9 เปอร์เซ็นต์ที่ว่านี้ก็เท่ากับจำนวนประชากรประมาณ 6-12 ล้านคนทีเดียว 

คริสตจักรแบบง่ายและผู้รับใช้ฆราวาส อีกหนึ่งกุญแจสำคัญของการเพิ่มพูนคริสตจักรไทย

เป็นที่ยอมรับจากนักยุทธศาสตร์เพิ่มพูนคริสตจักรจากทั่วโลกในปัจจุบันว่า คริสตจักรแบบง่าย กับ ผู้รับใช้ฆราวาส เป็นหนึ่งกุญแจสำคัญ ในการนำประชาชาติให้ได้เข้าสู่แผ่นดินพระเจ้า   

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ทั้งสองคำหมายความว่าอะไรแน่! 

คริสตจักรแบบง่าย  ภาษาอังกฤษเรียก Simple Church หรือ Simply Church  หมายถึงคริสตจักรที่ตั้งได้ง่ายๆ  และราคาถูก  ไม่ต้องไปซื้อที่สร้างอาคารหรือไม่ต้องเช่า  ใช้ตามบ้าน สำนักงาน  ร้านค้า  หรือที่ไหนก็ได้ ไ่ม่จำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายอะไรมาก  ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษราคาแพง   รวมทั้งไม่จำเป็นต้องพึ่งบุคคลกรที่ต้องผ่านการอบรมเป็นพิเศษอย่างยาวนานหรือมีความสามารถพิเศษสูงส่งมาก   

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คริสตจักรโรงหนัง (ดูวีดีโอ)



คริสตจักรโรงหนังที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงคริสตจักรที่ไปซื้อหรือเช่าโรงหนังที่เลิกกิจการแล้วมาทำเป็นคริสตจักร  แต่หมายถึงไปเช่าเวลาของโรงหนังที่ยังดำิเนินกิจการฉายภาพยนต์ตามปกติอยู่้  

คริสตจักรร้านกาแฟ Coffeehouse Church


อาคารหลังนี้เป็นร้านกาแฟที่มีืชื่อเสียงมาก ชื่อ EBENEZERS COFFEEHOUSE 
เอเบอเนสเซอร์ คอฟฟี่เฮ้าส์  ในวอชิงตัน ดีซี  สหรัฐ   

คริสตจักรใต้ต้นไม้ Church under the Tree : เอาคริสตจักรออกไปหาผู้คน (ดูวีดีโอ)

คริสตจักรใต้ต้นไม้ Church under the Tree : เอาคริสตจักรออกไปหาผู้คน


Church Under the Tree from Phil Warner on Vimeo.

วีดีโอนี้บอกเล่าถึงผู้รับใช้พระเจ้าที่ตั้งคริสตจักรแบบง่ายๆ  คือไปทำใต้ต้นไม้ในลานสาธารณะในเมือง   ซึ่งทำเป็นแบบกลุ่มไม่ใหญ่โต  ใช้โต๊ะง่ายๆ   บางครั้งก็มีการทานอาหารด้วยกัน   ศิษยาภิบาลก็แต่งตัวง่ายๆ เหมือนคนแถวนั้น   เป็นการนำคริสตจักรออกไปหาผู้คน  ทำให้ได้เข้าถึงคนวัยรุ่นหนุ่มสาวซึ่งมีปัญหาชีวิตมากมายและคนเหล่านี้ไม่มีทางที่จะเข้ามายังคริสตจักรโบสถ์ได้   เพราะมักจะรู้สึกกลัว และก็มักไม่ีเป็นที่ยอมรับของคริสตจักรโบสถ์โดยทั่วไปด้วย

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ปัญหาเรื่องคริสตจักรบ้าน


โดย ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์

ผมได้อ่านบทความเรื่องคริสตจักรบ้าน โดยคุณ ป. ปัญญาชน ซึ่งเขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงในการตั้งคริสตจักรบ้าน (หรือกลุ่มเซลล์) ของท่านเองที่สหรัฐอเมริกา (ซึ่งผมเคยได้อีเมล์พูดคุยกับท่านมาก่อน) ผมรู้สึกชื่นชมท่านจริงๆ ได้เห็นหัวใจในการรับใช้พระเจ้าของท่าน จากการที่ท่านบอกว่าได้เปิดบ้านรับใช้ทำคริสตจักรบ้าน มากว่า 10 ปีแล้ว และยังคงเปิดต่อๆไปโดยไม่ได้คิดที่จะเลิกหรือเบื่อหน่าย ท่านบอกเหตุผลที่ทำการนี้ว่า "ตราบใดที่พระเจ้ายังต้องการใช้บ้านหลังนี้ ผมและครอบครัวก็ยินดีถวายการรับใช้เสมอ จนกว่าวันใดที่พระองค์ให้หยุดก็จะหยุด"


ท่านได้เล่าความรู้สึกจริงๆ จากผู้ที่ทำคริสตจักรบ้านว่ามีปัญหาหลายอย่างได้แก่


วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ขอแนะนำคริสตจักรเครือข่ายบ้าน จังหวัดกระบี่ และพังงาครับ




เรียนพี่น้องทุกท่าน

พระเจ้ากำลังเคลื่อนไหวในคริสตจักรเครือข่ายบ้านอีกครับ
ผมขอแนะนำคริสตจักรเครือข่ายบ้าน แห่งใหม่ครับ

คริสตจักรชายหาด Church at the Beach


เราดูคริสตจักรในห้างแล้ว  คริสตจักรในสวนมาแล้ว   คราวนี้เป็นคริสตจักรบนหาดบ้าง

วีดีโอเรื่อง คริสตจักรนอกกำแพงโบสถ์ Church Outside The Walls

วีดีโอเรื่อง 
คริสตจักรนอกกำแพงโบสถ์
Church Outside The Walls

ตอน 1/4 

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ดูวิดีโอสาธิตคริสตจักรตามบ้าน

วิดีโอสาธิตคริสตจักรตามบ้าน  เป็นคริสตจักรแบบง่ายๆ  
วิธีเริ่ม  และวิธีการขยายตัวไปเรื่อยๆ 

ตอน 1/2

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จุดแข็งของคริสตจักรเครือข่าย

จุดแข็งของคริสตจักรแบบเครือข่าย ไม่วาจะเป็นแบบใดก็คือ

1. มุ่งสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่พี่น้องผู้รับใช้และคริสเตียน  ซึ่งสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์  และไม่ใชการเพียงการรวมตัวอย่างผิวเผินหรือเฉพาะกิจเท่านั้น และยังเน้นถึงการไม่เน้นการแบ่งแยกความเป็นคริสตจักรท้องถิ่น   แต่เน้นการร่วมเป็นพระกายของพระคริสต์ หรือเป็น "คริสตจักรเพื่อแผ่นดินพระเจ้า" (Church for the Kingdom) มากกว่าคริสตจักรของตนและพวกพ้องของตนหรืออาณาจักรของตน 

2. เกิดพลังและความอบอุ่น   ทั้งในการนมัสการ การอธิษฐาน การสามัคคีธรรม และการรับใช้ รวมตัวกันมากก็เกิดพลังมาก

3. เกิดการร่วมมือและแบ่งปันของประทานและทรัพยากร ที่จะทำำให้งานของพระเจ้าคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น   คริสตจักรทีแข็งแรงและที่อ่อนกำลังก็จะได้ชวยเหลือซึงกันและกัน และคริสตจักรที่อ่อนกำลังหลายแหงเมื่อร่วมมือกันก็จะเข้มแข็งยิ่งขึ้น   ซึ่งข้อนี้ยังรวมถึงการช่วยทำให้เกิดความคุ้มค่าและลดภาระค่าใช้จ่ายเกียวกับเรืองสถานทีนมัสการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกด้วย


วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ขอแนะนำคริสตจักรเครือข่ายบ้าน แห่งใหม่ครับ

เรียนพี่น้องทุกท่าน

พระเจ้ากำลังเคลื่อนไหวในคริสตจักรเครือข่ายบ้านครับ

สถานีวิทยุ House Church Network - True Love Radio  โดย อ.สืบพงศ์
ได้เปิด คริสตจักรเครือข่ายบ้าน แห่งใหม่ ใน อ.สอง จ.แพร่
เลขที่ 82/15 หมู่ 5 ตำบลบ้านกลาง อ. สอง จ. แพร่ 

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

พันธกิจคริสตจักรเครือข่าย
Network Church Ministry

ให้พระเยซูเป็นศีรษะที่แท้จริง



จอร์จ บาร์นา ผู้เขียนหนังสือ The Second Coming of the Church หรือ การมาครั้งที่สองของคริสตจักร ได้เขียนไว้ว่า  “มีข้อผิดพลาดมากมายเมื่อคริสตจักรมอบอำนาจความเป็นศีรษะให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่พระคริสต์ กระแสคริสตจักรตามบ้านเชื่อในพระเยซูผู้เป็นศีรษะของพระกาย ไม่ใช่ศีรษะของผู้นำเผด็จการหรือผู้นำเดี่ยว หรือการต้องยอมจำนนต่อผู้นำเพราะเขามีตำแหน่งหรือหน้าที่ แต่เป็นการตระหนักรู้ว่า “ศีรษะของพระกายคือพระคริสต์” (คส 2:19) และคนที่เป็นคริสตจักรจะต้อง “จำเริญขึ้นทุกอย่างสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะ (อฟ 4:15)”

ผมอ่านแล้วเห็นด้วยเลย และได้ผ่านประสบการณ์นี้ด้วยตนเอง จึงทำให้เข้าใจจริงๆว่าคริสตจักรจำนวนมากในปัจจุบัน ยอมมอบตำแหน่งศีรษะหรือยอมจำนนแก่ผู้นำไปเรียบร้อยแล้วทางพฤตินัย

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คริสตจักรในสวนสาธารณะ

คริสตจักรในห้างสรรพสินค้า

ดูวีดีโอคริสตจักรที่นมัสการในห้างสรรพสินค้า

ชื่อห้าง Macy's department store

คริสตจักรในห้างในที่อื่นๆ 
ในฟิลิปปินส์  โบสถ์คาทอลิกมาทำคริสตจักรในห้าง  ทำมิซซากันกลางห้างเลย  ห้างนี้ชื่อ ห้างแชงกรีล่าพลาซ่า มอลล์2

เรื่องของเทรนด์กับประเด็น'วัดในห้าง'


เดี๋ยวนี้การมาช็อปปิ้งในศูนย์การค้า ไม่ใช่แค่การมาซื้อของอย่างเดียวแล้ว แต่เป็นการมาทานข้าว ทานกาแฟ มาเล่นคอมพิวเตอร์ นัดพบกัน 


ศูนย์การค้าไม่ใช่ว่าคุณจะมาซื้อเสื้อ ซื้อรองเท้า หรือไม่ใช่ว่าจะมาซื้อกับข้าว แต่เดี๋ยวนี้คุณจะมาทำธุรกรรมก็ได้ แบงก์ก็เปิดในห้างแล้ว เข้าเช็คสักใบ อยากซื้อกระดาษทิสชู กินกาแฟแก้วหนึ่ง ดูหนัง สบาย

เราอยากให้ศูนย์การค้าเป็นจุดศูนย์รวมของคน

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หนุนใจนิมิตประเทศไทย ประกาศความรอดแบบใดนำคนมารอด

From: Abagus Prophet <idmcteam@gmail.com>

เชิญอ่านบทความแนวคิดการประกาศข่าวประเสริฐตามแนวของพระเยซูเจ้า

พระเยซูสั่งสอนสาวกต่อไปอีกว่า "ถ้าจะเข้าไปในบ้านใดจงพูดก่อนว่า 'ขอให้บ้านนี้มีสันติสุข' ถ้ามีคนรักสันติอยู่ที่นั่น สันติสุขของพวกท่านจะอยู่กับเขา ถ้าไม่มี สันติสุขของท่านจะกลับคืนมาอยู่กับพวกท่าน จงอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันนั้นตลอด กินและดื่มของที่พวกเขาจัดให้นั้น เพราะว่าคนที่ทำงานสมควรจะได้รับค่าจ้างของตน  อย่าย้ายจากบ้านนี้ไปบ้านโน้น เมื่อพวกท่านเข้าไปในเมืองไหนและมีคนต้อนรับท่าน จงรับประทานสิ่งที่เขาจัดให้"
"และจงรักษาคนป่วยในเมืองนั้นให้หาย และแจ้งกับเขาว่า
'แผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้พวกท่านแล้ว' "

อ่านบทความคลิกที่นี้

ขอพระเจ้าเสริมกำลังนะครับ
 
อ.รีวัฒน์ เมืองสุริยา

ผู้ประสานงานพันธกิจคริสตจักรเครือข่าย จ.เชียงราย

พี่น้องที่ทำคริสตจักรตามบ้าน หรือที่ทำงาน กรุณาแจ้งข้อมูลเพื่อจะจัดส่งบทเรียนหรือสื่อที่เป็นประโยชน์ไปสนับสนุนพันธกิจของท่าน

พี่น้องที่ทำคริสตจักรตามบ้าน หรือที่ทำงาน กรุณาแจ้งข้อมูล มายัง "พันธกิจคริสตจักรเครือข่าย" เพื่อจะช่วยสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องคริสเตียนที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ เพื่อจะหนุนใจและเรียนรู้จากกันและกัน

และเพื่อจะจัดส่งบทเรียนหรือสื่อที่เป็นประโยชน์ไปสนับสนุนพันธกิจของท่านเป็นครั้งคราว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและข้อผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น

ข้อมูลที่ขอให้ท่านแจ้งคือ สถานที่และเวลาที่ท่านใช้นมัสการ (หากมีแผนที่และภาพถ่ายก็จะดีมาก) ชื่อผู้นำ เบอร์โทร และอีเมล์ฺ หรือเวบไซท์ (หากมีภาพผู้นำ และภาพกลุ่มด้วยก็จะยิ่งดีมาก)

โปรดแจ้งมาที่ พันธกิจคริสตจักรเครือข่าย networkchurchministry@gmail.com
ดูรายละเอียดที่ www.networkchurchministry.org

ขอขอบคุณเป็นอย่างสูง และขอพระเจ้าทรงอวยพระพร

พันธกิจคริสตจักรเครือข่าย

วิธีประกาศที่ได้ผลดีที่พระเยซูสั่งให้ทำ

วิธีประกาศที่ได้ผลดีที่พระเยซูสั่งให้ทำ


วิธีประกาศที่ได้ผลดีที่พระเยซูสั่งให้ทำ How Jesus proclaims His goodnews


พระเยซูคริสต์ ทรงเรียกสาวกสิบสองคนมาพร้อมกัน แล้วทรงให้พวกเขามีฤทธิ์เดชและสิทธิอำนาจเหนือผีทั้งหลาย และรักษาโรคต่างๆให้หายได้ แล้วพระองค์ทรงใช้เขาทั้งหลายไปประกาศแผ่นดินของพระเจ้าและรักษาคนป่วยให้หาย


[พระธรรมลูกา บทที่ 9 ข้อ 1-2]


พระเยซูสั่งสอนสาวกต่อไปอีกว่า "ถ้าจะเข้าไปในบ้านใดจงพูดก่อนว่า 'ขอให้บ้านนี้มีสันติสุข' ถ้ามีคนรักสันติอยู่ที่นั่น สันติสุขของพวกท่านจะอยู่กับเขา ถ้าไม่มี สันติสุขของท่านจะกลับคืนมาอยู่กับพวกท่าน จงอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันนั้นตลอด กินและดื่มของที่พวกเขาจัดให้นั้น เพราะว่าคนที่ทำงานสมควรจะได้รับค่าจ้างของตน  อย่าย้ายจากบ้านนี้ไปบ้านโน้น เมื่อพวกท่านเข้าไปในเมืองไหนและมีคนต้อนรับท่าน จงรับประทานสิ่งที่เขาจัดให้"
"และจงรักษาคนป่วยในเมืองนั้นให้หาย และแจ้งกับเขาว่า
'แผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้พวกท่านแล้ว' "



[พระธรรมลูกา บทที่ 10 ข้อ 5-9]

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ยักษ์ใหญ่ยังคิดเล็ก ทำคริสตจักรเล็กด้วยวัตถุประสงค์ : Small Groups with Purpose


Resource Review: Small Groups with Purposeหากเอ่ยถึงคริสตจักร แซดเดิ้ลแบค หลายคนรู้จักดี เพราะคนก็จะนึกถึง ริก วอเรน (Rick Warren) ซึ่งเป้นตำนานผู้เขียนหนังสือ The Purpose Driven Church หรือ คริสตจักรที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์  รวมทั้งคำว่า purpose หรือ แผน P.E.A.C.E.

ใครบางคนอาจจะจำหรือเข้าใจว่า แซดเดิ้ลแบค เป็นคริสตจักรขนานใหญ่ แต่ข้อเท็จจริงวันนี้คือ แซดเดิ้นแบค มีการจัดประชุมคริสตจักรเล็ก ซึ่งกลายเป็นว่า มีคนประชุมมากกว่าในระหว่างสัปดาห์ มากกว่า คนที่ไปนมัสการในวันอาทิตย์เสียอีก


วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เรื่องที่มักเข้าใจผิดเรื่องคริสตจักรบ้าน

1. หลายคนเข้าใจว่าคริสตจักรบ้านต้องใช้บ้านเป็นที่นมัสการเท่านั้น
    จริงๆ แล้ว  จะใืช้สำนักงานก็ได้  ร้านค้าก็ได้   โรงงานก็ได้  โกดังก็ได้  หรือแม้แต่ศาลาที่ไหนก็ได้  สวนสาธารณะก็ได้  หรือใต้ต้นไม้ที่ไหนก็ได้  ที่จริงแนวทางของคริสตจักรบ้านก็คือ คริสตจักรง่ายๆ (ที่ศัพท์เทคนิคเรียกกันว่า Simple Church หรือ Simply Church)  ซึ่งอาจพูดได้ใหม่ว่าคริสตจักรบ้านหมายถึงที่ไหนก็ได้ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อหรือเช่า   ที่ๆ เราสามารถจัดการใช้ได้ไม่ยาก

2. การนั่งนมัสการในคริสตจักรบ้านต้องใช้ชุดรับแขก (โซฟา) 
ไม่จำเป็น  อาจนั่งโซฟาก็ได้ ถ้าบ้านเราอยู่กันแบบนั้น   แต่บ้านไทยจำนวนมากไม่ได้ใช้โซฟา  แต่นั่งกับพื้น ก็ทำตามนั้น  บ้านที่เป็นร้านค้าตามอาคารพาณิชย์อาจนั่งเก้าอี้พลาสติกกลมไม่มีพนัก   ก็นั่งตามนั้น    หรือนั่งกันหลายๆ แบบตามแต่สภาพเก้าอี้ที่มี  หรือบางทีก็นั่งโซฟาบ้าง  เก้าอี้บ้าง  นั่งพื้นบ้าง  และบ้างก็นอนฟังบ้าง   ตามแ่ต่ที่สภาพและบรรยากาศจะเอื้ออำนวย

แต่บางบ้านมีความพร้อมมากอยากจัดที่นั่งแบบโบสถ์เลย  คือมีเก้าอี้เีรียงเป็นแถวตอนหน้ากระดาน  แถมมีการจัดธรรมาสก์ให้ด้วย   นี่ก็เป็นคริสตจักรบ้านได้เช่นกัน

เทศน์เป็นทีม Team Preaching

นึกภาพของการเทศนาเป็นทีมออกไหม!
ในภาษาอังกฤษ บางทีเรียก Team Preaching แต่บางทีเรียก Tag-team Preaching

เป็นลักษณะที่ว่า ในการเทศนาหนึ่งกัณฑ์ ที่่มีนักเทศน์สองถึงสามท่านผลัดกันขึ้นมาเทศน์  เคยเจอด้วยว่าพอท่านแรกเทศน์เสร็จก็หันหลังไป ท่านที่สองก็เดินเข้ามาแทน แล้วทั้งสองก็ "แตะมือ" กัน

ทำยังกะวิ่งเปี้ยวหรือวิ่งผลัดเลย!  แต่น่ารักดี

ตัวอย่างการเทศนาเป็นทีม  ในคลิปนี้เป็นนักเทศน์สองท่าน

คริสตจักรบ้านกับคริสตจักรเครือข่ายบ้าน การประสานพลังเพื่อกำจัดจุดอ่อน

มีคนถามมากว่า ทำคริสตจักรบ้านโดยไม่ต้องทำเครือข่ายได้ไหม?
คงต้องตอบว่าได้แน่นอน  ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด  แต่ข้อเท็จจริงจากการวิจัยพบว่า คริสตจักรบ้านที่ไม่ทำเครือข่ายจะไม่ค่อยเติบโตเท่าที่ควร  และหลายที่ก็ล้มเลิกไปในที่สุด  สาเหตุเป็นเพราะธรรมชาิติของคริสตจักรบ้านนั้นมีคนน้อย  ก็เพราะสถานที่จุคนได้น้อยเป็นทุนอยู่แล้ว  (ยกเว้นบางบ้านก็ใหญ่จริงๆ เช่น คจ.บ้านในจีน บางหลังมีเป็นร้อยๆ คน)

และความที่คนน้อยผลที่ตามมาคือ กำลังคนก็จะน้อย  ของประทานก็น้อย ทรัพย์ก็จะน้อย จะทำอะไรก็ดูติดขัด  ขาดคนขาดเงินขาดความสามารถ  ยิ่งถ้าเอาลักษณะของโบสถ์ใหญ่มาเปรียบเทียบก็จะรู้สึกว่า นักดนตรีก็ไม่มี  เครื่องดนตรีไม่มี  หรือมีแต่กีต้าร์  ครูรวีก็ไม่มี  ทำอะไรใหญ่ๆ ก็ไม่ได้  

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คริสตจักรเครือข่ายร่วมอาคาร: กรณีศึกษาจาก Saddleback โดย ริค วอเรน

ห้องนมัสการห้องหนึ่งของคริสตจักร Saddleback Church
คริสตจักรเครือข่ายร่วมอาคาร:
กรณีศึกษาจากคริสตจักร Saddleback โดย  ริค วอเรน  


เขียนโดย ดร.ศิลป์ชัย  เชาว์เจริญรัตน์ (Th.D)
ภาพแผนภูมิที่ท่านผู้อ่านเห็นอยู่ขณะนี้คือ แผนภูมิของคริสตจักรที่ชื่อ Saddleback Church  ซึ่งศบ.คือ ดร.ริค วอเรน  ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายชื่อเสียงและผลงานของท่านอีก    
แต่ส่วนใหญ่คนจะรู้จักท่านและคริสตจักรนี้เพียงแง่มุมที่ว่า เป็นคริสตจักรขนาดยักษ์หรือเมก้าเชิร์ช ในสหรัฐ ที่มีสมาชิกนับหมื่นคน (ปัจจุบันราวสามหมื่น)  แต่มักไม่มีใครพูดถึงลักษณะพิเศษอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ด้วย

แผนภูมินี้มีไว้เพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนที่มานมัสการที่คริสตจักรที่นี้ทราบว่า  มีนมัสการหลายๆ ห้อง! แต่่ละห้องมีหลายรอบ  และที่สำคัญคือ แต่ละห้องมีสไตล์การนมัสการแตกต่างกัน!  
ในแผนภูมิระบุว่ามีห้องนมัสการ 9 ห้อง (ซึ่งสมัยที่ผมไปหลายปีก่อนนั้นมีเพียง 6 ห้อง)   ขออธิบายเพิ่มเติมว่า แต่ละห้องใหญ่ไม่เท่ากัน   บางห้องใหญ่มากจุได้เป็นหมื่นคน   แต่บางห้องก็เล็กจุได้เพียงร้อยกว่าคน)

ภาพคริสตจักรบ้านในหลายประเทศทั่วโลก

คริสตจักรบ้านในกรุงเทลเลวิฟ  อิสราเอล

คริสตจักรบ้านในปักกิ่ง จีน

คริสตจักรบ้านในเมืองชูหวาง  จีน

คริสตจักรบ้านในอินเดีย

คริสตจักรบ้านในเมืองปอร์โต อเลเกร  ประเทศบราซิล

คริสตจักรบ้านแห่งหนึ่งในสหรัฐ 

คริสตจักรบ้านในสิงคโปร์




คริสตจักรคืออะไร? และที่ว่า "คริสตจักรสากล" กับ "คริสตจักรท้องถิ่น" หมายถึงอะไร? และ "คณะ" หมายถึงอะไร?

คริสตจักรคืออะไร?  และที่ว่า "คริสตจักรสากล" กับ "คริสตจักรท้องถิ่น" หมายถึงอะไร? และ "คณะ" หมายถึงอะไร? 

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า  มีคนหลายคนคิดว่าคริสตจักรคือตัวอาคาร แต่นี่ไม่ใช่ความหมายของคำว่าคริสตจักรตามแนวพระคัมภีร์ คำว่าคริสตจักรมาจากคำว่า “Ecclesia” ในภาษากรีก ซึ่งหมายความว่า “ที่ประชุม” หรือ “ผู้ที่ถูกเรียกออกมา” รากศัพท์ของคำว่า “คริสตจักร” ไม่ได้หมายถึงตัวอาคาร แต่หมายถึงผู้คน เมื่อท่านถามใครคนใดคนหนึ่งว่าเขาไปคริสตจักรไหน โดยปรกติเขาจะตอบว่า แบพติศ, เมโธดิสต์, หรือ นิกายอื่น ๆ ส่วนใหญ่เขาจะหมายถึงนิกายหรือตัวอาคาร หนังสือโรม 16:5 บอกว่า: “… และขอฝากความคิดถึงมายังคริสตจักรที่อยู่ในบ้านเขาด้วย…” ท่านเปโลพูดถึงคริสตจักรในบ้านของพวกเขา, ไม่ใช่ตัวอาคาร แต่เป็นกลุ่มผู้เชื่อ


คริสตจักรคือพระกายของพระคริสต์ หนังสือเอเฟซัส 1:22-23 กล่าวว่า “พระเจ้าได้ทรงปราบสิ่งสารพัดลงไว้ใต้พระบาทของพระคริสต์ และได้ทรงตั้งพระองค์ไว้เป็นประมุขเหนือสิ่งสารพัดแห่งคริสตจักรซึ่งเป็นพระกายของพระองค์ คือซึ่งเต็มบริบูรณ์ด้วยพระองค์ ผู้ทรงอยู่เต็มทุกอย่างทุกแห่งหน” พระกายของพระคริสต์ประกอบด้วยผู้เชื่อทุกคนตั้งแต่สมัยเพนเทคศเตจนถึงวันที่พระองค์จะเสด็จมารับเรา พระกายของพระคริสต์ประกอบด้วย:

ขอคำปรึกษาในการทำพันธกิจ

From: พิชัย เฉลิมเลี่ยมทอง <nalunae@yahoo.co.th>

สวัสดีครับ

              ผมชื่อพิชัย เฉลิมเลี่ยมทอง รับใช้ที่คริสตจักรCalvary chapel บ้านน้ำเค็มคริสตจักรก่อต้ังหลังเหตุการณ์สึนามิ ปัจจุบันมีสมาชิก20-25คนและมีสมาชิกที่เป็นคนพม่า เรานมัสการคนละรอบในวันอาทิตย์ ผมมีความสนใจและขอคำปรึกษากับท่าน ผมสนใจทำในรูปแบบที่2เพราะว่ามีอาคารเป็นของตนเอง

ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

ที่อยู่32/1-2หมู่2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่าจ.พังงา 

โทร 089-4752062 

กระแส"คริสตจักรตามบ้าน”ในเมืองลุงแซม (บทความจาก คมชัดลึก)


(ลงใน นสพ.คมชัดลึก คอลัมภ์ต่างประเทศ  ณ วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2553)

คมชัดลึก :  นายบิล เบนนิงฮอฟฟ์ เลิกเดินทางเข้าโบสถ์มาตั้งแต่ปี 2548 ไม่ใช่เพราะเลิกนับถือพระผู้เป็นเจ้า หากแต่เป็นเพราะเขาเห็นว่าการร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในวันอาทิตย์ตามบ้านคริสตชนผู้ร่วมอุดมการณ์น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

“การอยู่ในคริสตจักรตามบ้านจะทำให้คุณได้รู้จักเพื่อนชาวคริสต์ของคุณอย่างแท้จริงทั้งในยามสุขและยามทุกข์” หนุ่มวิศวกรชาวอเมริกันรายนี้ให้ความเห็น

คริสตจักรบ้าน ที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี

From: boonyang suriyathum <boonyang@oep.co.th>
บ้านแห่งพระพร ( โครงการเอื้ออาทร ) อ.พานทอง จ.ชลบุรี 20160 โทร.086-800-4289 (มด)
มีการประกาศแก่เยาวชน..สอนพระคำของพระเจ้า  
ในทุกๆวันเสาร์ 9.00- 12.00 น.  เสริมสร้างจริยะธรรมแก่เยาวชน .ในหมู่บ้าน
ในวันอาทิตย์ เวลา 14.30 – 16.30 น  มีการนมัสการที่บ้านแห่งพระพร การแบ่งปันพระวจะนะคำของพระเจ้า  สามัคคีธรรมกับพี่น้อง..และการประกาศ..  (อาทิตย์เ้ช้าไปนมัสการที่โบสถ์ชลบุรี)

บ้านแห่งพระพร เลขที่ 65 / 191 หมู่ 5 บ้านเอื้ออาทร ต.พานทอง อ. พานทอง จ. ชลบุรี 20160
Tel. 0868004289 

บทความ : วันสะบาโตกับชีวิตคริสเตียนยุคปัจจุบัน

วันสะบาโตกับชีวิตคริสเตียนยุคปัจจุบัน


ดร.ศิลป์ชัย  เชาว์เจริญรัตน์
  
ในชีวิตทุกวันนี้ คริสเตียนควรถือปฏิบัติพระบัญญัติเรื่องวันสะบาโตอย่างไร? ปฏิบัติอย่างไรจึงจะถือว่าถูกต้อง หรือถือว่าไม่ผิด? ก่อนจะตอบคำถามนี้ได้เราต้องย้อนกลับไปดูที่มาของพระบัญญัติเรื่อง “สะบาโต” อีกครั้ง

พระบัญญัติข้อสี่ของพระบัญญัติสิบประการกำหนดให้ถือวันสะบาโตเป็นวันบริสุทธิ์ที่ทุกคนในแผ่นดินอิสราเอลต้องหยุดพักจากการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นตัวเอง ลูก ทาส คนต่างด้าว ไปจนถึงสัตว์ใช้งานด้วย (อพย.20:8-11) คำว่า “สะบาโต” แปลว่าหยุด หรือ พัก วันสะบาโตถูกกำหนดว่าเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ซึ่งตามที่นับกันทั่วไปก็คือวันเสาร์ พระคัมภีร์บันทึกเหตุผลที่กำหนดเป็นวันดังกล่าวก็เนื่องจากว่าเป็นวันที่พระเจ้าทรงหยุดจากการทรงสร้างเช่นกัน (ปฐก.2:1-3)

อย่างไรก็ตาม ยิวนับวันไม่เหมือนกับสังคมทั่วไป ยิวจะนับวันโดยเริ่มจากตะวันตกดินของเย็นวันศุกร์ไปจนถึงตะวันตกดินของอีกวัน ฉะนั้นวันสะบาโตจึงเริ่มนับจากราวหกโมงเย็นวันศุกร์ไปสิ้นสุดเอาที่ราวหกโมงเย็นของวันเสาร์ด้วย นั่นก็แปลว่า การหยุดพักงานก็ต้องหยุดพักตั้งแต่ศุกร์เย็นไปจนถึงเสาร์เย็นเช่นกัน

พระบัญญัติของพระเจ้าได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับการให้หยุดทำงานในวันสะบาโตไว้อีกพอสมควร ได้แก่ ต้องหยุดออกจากที่พักเดินทางไปไหนไกล (อพย.16:29) หยุดก่อไฟเพื่อทำอาหารในที่พักอาศัย (อพย.35:2-3) อาหารที่จะรับประทานในวันสะบาโตต้องทำไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ “วันเตรียม” คือวันก่อนสะบาโต (อพย.16:23;มธ.27:62; มก.15:42)

นอกจากนี้พระบัญญัติยังกำหนดให้มี “ปีสะบาโต” ด้วย ซึ่งก็มีไว้เพื่อการหยุดพักเช่นกัน พักทั้งคน พักทั้งสัตว์ใช้งาน และพักทั้งไร่นาด้วย (อพย.23:10-11) ผู้เขียนเชื่อว่าพระเจ้าทรงให้มีปีสะบาโตเพื่อเพือให้ที่ดินได้กลับสู่สมดุล เพื่อคืนสภาพความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ  อ่านทั้งหมด


วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คำถาม: คริสตจักรตามบ้านกับกลุ่มเซลล์ของคริสตจักร เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

อยากเรียนถามว่า คริสตจักรตามบ้านเหมือนหรือต่างกับกลุ่มเซลล์ของคริสตจักรอย่างไร?  เพราะกลุ่มเซลล์ก็ใช้บ้านเหมือนกัน

ตอบ:  เป็นความจริงที่คริสตจักรที่มีระบบกลุ่มเซลล์ก็มีการประชุมนมัสการตามบ้านเหมือนกันกับคริสตจักรบ้าน    แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ

1. เรื่องของชื่อเรียก  
กลุ่มเซลล์ของคริสตจักร จะไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นคริสตจักรได้อย่างเป็นทางการ   เพราะยังอยู่ภายใต้ชื่อของคริสตจักรที่ตนเป็นสมาชิกอยู่    และคริสตจักรตามบ้านจะสามารถเรียกตนเองว่าเป็นคริสตจักรได้อย่างเป็นทางการ  และแม้จะมีความเป็นคริสตจักรเครือข่าย  แต่ก็ยังเรียกตัวเองว่าเป็นคริสตจักรได้

2. อำนาจปกครอง
กลุ่มเซลล์ของคริสตจักรต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองของคริสตจักรอีกทีหนึ่ง   ไม่ได้มีสิทธิปกครองตนเองได้สมบูรณ์  ยังต้องอยู่ภายใต้โครงสร้างของคริสตจักร  มีศบ.ที่โบสถ์ควบคุมดูแลสูงสุด   การถวายทรัพย์ของสมาชิกยังต้องเน้นการถวายที่โบสถ์  ไม่ใช่ที่เซลล์    แต่คริสตจักรตามบ้านมีสิทธิปกครองตนเองโดยสมบูรณ์   มีศบ.ของตนเอง  ตัดสินใจเอง  เงินถวายก็เน้นที่คจ.บ้าน    แม้มีการรวมตัวเป็นคริสตจักรเครือข่ายบ้านก็เป็นการรวมตัวกันโดยสมัครใจ  ไม่มีอำนาจบังคับ

3. การนมัสการรวม
กลุ่มเซลล์มักต้องจัดวันธรรมดา ส่วนวันอาิทิตย์ยังต้องไปนมัสการรวมทีคริสตจักรทุกสัปดาห์   แต่คริสตจักรตามบ้านสามารถนมัสการวันอาทิตย์ได้  และหากมีคริสตจักรเครือข่ายบ้านก็มักจะจัดนมัสการรวมกันนานๆ ครั้ง  อาจเป็นเดือนละครั้ง สองเดือนครั้ง หรือสามเดือนครั้ง (แต่ก็อาจรวมตัวกันทุกสัปดาห์ก็ได้)   และการนมัสการรวมตัวกันก็อาจไ่ม่ใช่รวมวันอาิทิตย์เ้ช้าก็ได้  อาจเป็นอาิทิตย์ค่ำ   หรือวันเวลาอื่นๆ  

ยังมีจุดอื่นๆ อีก แต่ถือว่าเป็นเรื่องปลีกย่อย

ที่กล่าวมานี้ไม่ได้บอกว่าแบบไหนดีกว่า   แต่ละแบบก็มีจุดแข็งจุดอ่อนและความเหมาะสมกับสภาพที่ไ่ม่เหมือนกัน   การตอบตรงนี้เพียงแต่จะอธิบายว่าทั้งสองแบบต่างกันอย่างไรเท่านั้นเอง


SC

คริสตจักรตามบ้านที่สกลนคร

From: อานากูล วาจาไท <anukul.777@gmail.com>

ขอบคุณพระเจ้าที่มีพี่น้องร่วมกันทำคริสตจักรตามบ้าน  ผมและคริสตจักรก็กำลังขยายคริสตจักรตามบ้านอยู่
 
คริสตจักรสกลนคร
105/30-31 ถ. ไอทียู อ.เมือง จ.สกลนคร 47000
โทร.081-5516225
 
อนุกูล  วจนะเรืองไท
ศบ.คริสตจักรสกลนคร

คริสตจักรต้องการมากกว่า "ศิษยาภิบาล" โดย ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์ (Th.D)

ลองทายดูว่า หากท่านค้นหาคำว่า "ศิษยาภิบาล" หรือ "Pastor" ในพระคัมภีร์ทั้งเล่ม  ท่านจะพบกี่ครั้ง?
คำตอบคือ...ครั้งเดียว  
ใช่...ครั้งเดียวเท่านั้น   เชื่อไหม?

ทายต่ออีกสักคำถาม ... 
คำว่าศิษยาภิบาลครั้งเดียวที่ว่านั้นปรากฎอยู่ตอนไหน และในเนื้อหาตอนนั้นพูดถึงอย่างไร?
ตอบ... พูดถึงในพระธรรม  เอเฟซัส 4:11  โดยบอกว่า "ของประทานของพระองค์ ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์"   

ท่านที่ทำคริสตจักรเครือข่ายหรือคริสตจักรตามบ้านอยู่แล้ว หรือประสงค์จะทำ โปรดแจ้งเข้ามา เพื่อจะได้เชื่อมโยงและช่วยเหลือกันได้อย่างกว้างขวาง ติดต่อ networkchurchthai@gmail.com

ท่านที่ทำคริสตจักรเครือข่ายหรือคริสตจักรตามบ้านอยู่แล้ว หรือประสงค์จะทำ โปรดแจ้งเข้ามา เพื่อจะได้เชื่อมโยงและช่วยเหลือกันได้อย่างกว้างขวาง ติดต่อ networkchurchthai@gmail.com 



คริสตจักรตามบ้านในเมืองกลาสโกลว์ สก๊อตแลนด์ อังกฤษ


คริสตจักรตามบ้านในเมืองกลาสโกลว์  สก๊อตแลนด์  อังกฤษ 

คริสตจักรตามบ้านใน Tomball, Texas


คริสตจักรตามบ้านใน Tomball, Texas

คริสตจักรตามบ้านในเมืองบอมเบย์ ประเทศอินเดีย




การนมัสการ


บรรยากาศขณะรับประทานอาหารร่วมกัน 

ดูวีดีโอ คริสตจักรตามบ้านที่น่าสนใจ มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก อบอุ่นมาก


ดูวีดีโอ คริสตจักรตามบ้านที่น่าสนใจ   มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก   อบอุ่นมาก

วีดีโอ คริสตจักรเครือข่ายบ้าน ที่โอเรกอน USA


วีดีโอ คริสตจักรเครือข่ายบ้าน ที่โอเรกอน USA


การทำมหาสนิทในคริสตจักรบ้านแ่ห่งหนึ่ง

คริสตจักรตามบ้านในหลายประเทศ

คริสตจักรตามบ้านในจีน

คริสตจักรบ้านที่ อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี

From: Tharadon Jamoo <g.s.i.tharadon@gmail.com>
Date: 2011/6/6

ผมนายธราดล  พงษ์ไฟรศาล  ตอนนี้มาบุกเบิกคริสตจักรอยู่ที่อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี (อำเภอบางปลาม้ายังไม่มีคริสตจักรใดๆทั้งสิ่น) ผมเริ่มบุกเบิกได้ 2ปีแล้วมีผู้เชื่อ 5 คน (เพราะผมประกาศและบุกเบิกอยู่คนเดียวไม่มีทีมและไม่มีงบประมาณเลย) ดังนั้นผมอยากให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการประกาศพระนามของพระเจ้าในอำเภอบางปลาม้าและอำเภอใกล้เคียงต่อไป 

พระเจ้าอวยพระพร

ที่อยู่ 299/5 ม.5 ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี 72150  โทร 087-0909549

คริสตจักรแม่น้ำของพระเจ้า คริสตจักรบ้านแห่งหนึ่งในเขตทวีรัตนา กทม.

สวัสดีค่ะ
คุณแม่เปิดบ้านเป็นสถานนมัสการชื่อ "คริสตจักรแม่น้ำของพระเจ้า" ค่ะ
เลขที่ 756 ซอยบรมราชชนนี 72 หมู่บ้านอมรชัย 3 ซอย 8 (ขวา)
ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.
โทร.02 889 7102, 081 496 1272
คุณแม่ชื่ออาภรณ์พรรณ ศรีภิรมย์ (อาภรณ์)

ถ้าหากมีโอกาสอยากเชิญมาร่วมนมัสการ หรือเยี่ยมเยียนด้วยค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพระพรค่ะ
ไอริณ ศรีภิรมย์


Irin S.  irin@siamlaw.co.th

คริสตจักรท้องถิ่น ทำไมต้อง "เครือข่าย"?

คริสตจักรทุกยุคทุกสมัยไม่เคยอยู่โดดเดี่ยว  แต่อยู่กันแบบเป็น "คริสตจักรเครือข่าย"  เพราะยุคแรกถือว่ามีคริสตจักรเดียว (คริสตจักรสากล) และกระจายกันไปใช้ตามสถานที่ต่างๆ   ไม่ได้เน้นแต่คริสตจักรท้องถิ่นแห่งใดแห่งหนึ่ง   

การที่คริสตจักรเ้น้นการอยู่อย่างโดดเดี่ยวจะทำให้กำลังน้อย  ของประทานน้อย  ทรัพยากรน้อย  โอกาสในการรับใช้น้อย   ความหลากหลายน้อย   แต่เมื่อได้เชื่อมโยงรวมตัวและช่วยเหลือกันเป็นเครือข่าย   ก็จะทำให้เกิดผลในทางตรงกันข้าม  

ยิ่งคริสตจักรบ้าน หรือคริสตจักรเล็กยิ่งจำเป็น!  

และแน่นอนว่า พระเยซูคริสต์ทรงประกาศสั่งสอนโดยเน้นให้ผู้คนได้เข้าสู่ "แผ่นดินของพระเจ้า"  ไม่ได้เน้นที่คริสตจักร   พระองค์ตรัสถึงแผ่นดินของพระเจ้าหรือแผ่นดินสวรรค์  (The Kingdom of God) มากมาย  แต่ตรัสคำว่าคริสตจักรเพียงครั้งเดียวเท่านั้น   และครั้งเดียวที่ตรัสนั้นโดยบริบทก็หมายถึงคริสตจักรสากลด้วย  

และจะทำอย่างไรให้คริสตจักรท้องถิ่นสามารถเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพล่ะ?  และขณะเดียวกันก็อาจไม่จำเป็นต้องเป็นการมีอำนาจเหนือกันด้วย  

...ก็เป็นเครือข่าย หรือ Networking กันไงล่ะ !!  

การทำเครือข่ายทำให้คริสตจักรท้องถิ่นทุกแห่งสามารถสร้าง "อาณาจักรพระเจ้าที่แข็งแรง" ได้  ไม่ใช่เพียงอาณาจักรพระเจ้าที่เป็นเพียงสภาวะที่คริสตจักรท้องถิ่นได้แค่รู้จักกัน  หรืออาจนมัสการร่วมกันก็เฉพาะคริสตมาสเท่านั้น!  

เรามาทำคริสตจักรเพื่ออาณาจักรพระเจ้า  หรือ Church for the Kingdom กันดีไหม

(เรื่องในอดีต) การสัมนาเรื่องกระแสคริสตจักรและเครือข่ายคริสตจักรตามบ้าน

  ราวสิบกว่าปีก่อน    ผมได้มีไปร่วมสัมมนาและดูงานเกี่ยวกับเครือข่ายคริสตจักรตามบ้านในรัฐแคลิฟอเนีย สหรัฐอเมริกาอีกด้วย    และเมื่อกลับมาไม่นานนัก ก็ได้จัดสัมนาเรื่อง  "กระแสการตั้งคริสตจักรและเครือข่ายคริสตจักรตามบ้าน"  หรือ Church Planting Movement & House Church Networks   (จัดในราวๆ วันที่ 24-25 ตุลาคม พ.ศ.2542)  โดยใช้สถานที่คริสตจักรCalvary สุขุมวิทซอย 2   เจ้าภาพคือ International Mission Board (IMB)  และสถาบันคริสเตียนศึกษาและพัฒนาคริสตจักร (ซีอีดี)   วิทยากรคือ อ.แบรด บีแมน และรอเจอร์ ธอแมน   ทั้่งสองท่านเป็นผู้ที่ทำเรื่องเครือข่ายคริสตจักรตามบ้านอย่างจริงจังในสหรัฐ

ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากพี่น้องคริสเตียน ผู้นำ และมิชชันนารีอย่างมาก  มีผู้นำให้ความสนใจเข้าร่วมเกือบ 200 ท่าน จากทุกสังกัดและทุกภาคของประเทศ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คริสตจักรต่างๆ ติดค่ายกันอย่างมากมาย มีศิษยาภิบาลและผู้นำบางท่านยอมลาจากค่ายของคริสตจักรของตนเองมาเพื่อร่วมสัมมนานี้เป็นพิเศษ

คริสตจักรง่ายๆ (Simple Church) คริสตจักรเพื่อทุกคน...ทุกที่...ทุกเวลา

คริสตจักรเริ่มได้ด้วยผู้เชื่อทุกคน  ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องรับเชื่อมาแล้วกี่ปี   จบพระคริสตธรรม  หรือไม่ หรือจบหลักสูตรไหน

คริสตจักรเกิดได้ในทุกที่   คริสตจักรแห่งแรก (ในเยรูซาเล็ม) เริ่มจากห้องชั้นบนของบ้านหลังหนึ่ง   แล้วก็เป็นบ้านทั่วไป  แล้วก็เป็นลานในพระวิหาร  บางช่วงก็ต้องหลบไปใ้ช้ในห้องใต้ดินตามบ้าน  กว่าจะเริ่มมีอาคารโบสถ์ได้ก็ยาวนานหลังจากมีคริสตจักรบ้านมาแล้วถึงราว 300 กว่าปี

ทุกวันนี้คริสตจักรได้พัฒนารูปแบบไปสู่การทำให้ง่ายขึ้น  (Simple Church)  มีการใช้บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ   ยิ่งกว่านั้นในโลกตะวันตกได้เกิดกระแสคริสตจักรตามออฟฟิซมากขึ้นด้วย   เฉพาะในเมืองธุรกิจอย่างนิวยอร์คก็ได้เกิดคริสตจักรตามออฟฟิสเป็นร้อยๆ จุด   มีการรวมตัวนมัสการและศึกษาพระคัมภีร์ในออฟฟิสหลังเลิกงาน  หรือช่วงพักเที่ยง  

เหตุเกิดที่คริสตจักรบ้านแห่งหนึ่ง

สามีภรรยาคู่นี้มีใจอยา่กตั้งคริสตจักรที่บ้านของตน   พวกเขาก็เริ่มเชิญชวนเพื่อนบ้านมาที่บ้าน  เป็นการทานอาหาร  เป็นพยานประสบการณ์ชีิวิต  และอธิษฐานเผื่อกัน  เริ่มมีคนรับเชื่อ    

คริสตจักรของพระคริสต์ในแวลลี่ตะวันตกเมืองฟีนิกซ์ ควบรวมกับ คริสตจักรพารค์เวย์ในอริโซน่า

คริสตจักรของพระคริสต์ในแวลลี่ตะวันตกเมืองฟีนิกซ์ ควบรวมกับ คริสตจักรพารค์เวย์ในอริโซน่า

คริสตจักรของพระคริสต์ ในแวลลี่ตะวันตก (Christ's Church of Valley : CCV) ซึ่งมีพื้นที่อยู่ 100 เอเคอร์ ซึ่งถูกตั้งมาประมาร 28 ปีแล้วโดยศิษยาภิบาลอาวุโส ดอน วิลสัน คริสตจักรเน้นกลุ่มผู้ชายที่มีช่วงอายุ 25 ถึง 45 และมีผู้เข้าร่วมประชุมสัปดาห์ละ 16700 คน

คริสตจักรพาค์เวย์ ซึ่งอยู่ห่างออกไป 16 ไมล์ ในรัฐอาริโซน่า มีอายุ13ปี ซึ่งมีพื้นที่อยู่ 40 เอเคอร์ ก่อตั้งโดย ศิษยาภิบาล เทรนท์ เรนเนอร์ ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมสัปดาห์ละ 2500 คน

CCV ได้ควบรวมเข้าด้วยกันกับ คริสตจักรพาร์คเวย์ โดย คริสตจักรพาร์คเวย์นั้น จะเป็น CCV อีกแห่ง  CCV เองได้สร้างคริสตจักรเครือข่ายไว้หลายแห่ง และก็ได้เข้าพูดคุยกับอีกหลายๆคริสตจักรด้วย เพื่อจะควบรวมคริสตจักรอีกหลายแห่งเข้าด้วยกัน

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

พี่น้องท่านใดทำคริสตจักรตามบ้านอยู่ กรุณาแจ้งที่อยู่ด้วย เพื่อการช่วยเหลือกัน

พี่น้องคริสเีตียนและผู้รับใช้ท่านใดทำคริสตจักรตามบ้านอยู่
ขอความกรุณาบอกที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของท่านด้วย  เพื่อจะมีโอกาสช่วยเหลือกัน
และเพื่อให้พี่น้องท่านอื่นๆ ที่สนใจ  จะสามารถไปเยี่ยมเยียนและร่วมนมัสการกับท่านได้

โปรดแจ้งมายัง  networkchurchthai@gmail.com
หรือโทร 0863773448
หรือที่เฟซบุ๊ค http://www.facebook.com/pages/Network-Church/122189694528766


หรือดูที่เวบ http://networkchurchthai.blogspot.com

วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หนังสือพื้นฐานที่สำคัญเกี่ยวกับเครือข่ายคริสตจักรตามบ้าน และคริสตจักรเครือข่ายรูปแบบอื่นๆ

หนังสือพื้นฐานที่สำคัญเกี่ยวกับคริสตจักรเครือข่ายบ้าน  และคริสตจักรเครือข่ายรูปแบบอื่นๆ  

โดย ดร.ศิลป์ชัย  เชาว์เจริญรัตน์  


         พี่น้องครับ  ผมใคร่ขอแนะนำหนังสือพื้นฐานที่สำคัญเกี่ยวกับเรื่องเครือข่ายคริสตจักรตามบ้าน   ซึ่งเป็นรูปแบบที่สำคัญรูปแบบหนึ่งของคริสตจักรเครือข่าย  ผมได้ดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือเหล่านี้ในภาษาไทยเมื่อหลายปีก่อน  ในครั้งที่ยังเป็๋นผู้อำนวยการของสถาบันคริสเตียนศึกษาและพัฒนาคริสตจักร (ซีอีดี)  

เล่มแรก คือ  กระแสการตั้งคริสตจักร (Church Planting Movement)  โดย เดวิด แกริสัน  เล่มนี้ืถือว่าเป็นสุดยอดเล่มหนึ่ง พูดถึงกระแสการตั้งคริสตจักร หรือขบวนการตั้งคริสตจักรที่กำลังเกิดไปทั่วโลก   ผมมีโอกาสพบปะพูดคุยกับผู้เขียนด้วยตนเอง  เขาทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทั่วโลก จนสามารถสรุปเป็นทฤษฎีที่น่าเชื่อถือ     เล่มนี้กลายเป็นตำราหลักเล่มหนึ่งของบรรดานักพันธกิจวิทยา  มิชชันนารี และนักตั้งคริสตจักรรุ่นใหม่ทั่วโลกครับ   หนังสือเล่มนี้ได้แย้งทฤษฎีเดิมๆ ในเรื่องงานมิชชั่นและการตั้งคริสตจักรอย่างมาก  

และที่น่าสนใจด้วยคือมีตัวอย่างกรณีที่เกิดในประเทศเพื่อนบ้านของไทยคือประเทศกัมพูชา   น่าสนใจมากครับ   

ลืมบอกไปว่าหนังสือเล่มนี้จำหน่ายพร้อมวีซีดีเหตุการณ์จริง แนบอยู่ที่ปกหลังด้วยครับ  



เล่มที่สองคือ เครือข่ายคริสตจักรตามบ้าน (House Church Network) โดย ลาร์รี่ ไครเดอร์   ผมได้พบผู้เขียนท่านนี้ด้วยตนเองเช่นกัน   ผู้เขียนท่านนี้ทำเรื่องเครือข่ายคริสตจักรตามบ้่านมาด้วยตนเอง  รวมทั้งหาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ ด้วย    และได้สรุปเป็นทฤษฎีที่น่าสนใจมาก  เช่น  บอกว่า  คริสตจักรส่วนใหญ่ในโลกคือคริสตจักรเดี่ยวขนาดเล็ก  ซี่งเปรียบได้กับร้านโชห่วย    แต่คริสตจักรทุกวันนี้ส่วนใหญ่อยากเป็นเมก้าเชิร์ช  (หรือคริสตจักรยักษ์)  ซึ่งเปรียบได้กับ ห้างวอลมาร์ท (หรือแบบไทยก็ห้างแบบแมคโคร โลตัส นั่นเอง)   แต่ที่จริงแล้วก็ไม่จำเป็น     แต่ก็มีคริสตจักรอีกแบบหนึ่งที่ควรจะเกิดขึ้น คือคริสตจักรแบบเครือข่ายคริสตจักรเล็ก หรือเครือข่ายคริสตจักรตามบ้าน  ซึ่งเปรียบเทียบได้กับ เซเว่นอีเลฟเว่น  คือกลุ่มเครือข่ายของคริสตจักรขนาดเล็กที่กระจายไปทั่ว แต่แตกต่างกับคริสตจักรแบบโชห่วยก็คือคริสตจักรเล็กเหล่านี้มีการเชื่อมโยงกัน  ช่วยเหลือกัน เคลื่อนไปด้วยกันจนเป็นเหมือนคริสตจักรเดียวกัน

  
เล่มที่สามคือ เริ่มตั้งคริสตจักรตามบ้าน  โดย เฟลิซิตี้  เดล  ผมได้พบปะพูดคุยกับผู้เขียน มาแล้วด้วยตนเองเช่นกัน   เป็นหญิงเหล็กที่ทุ่มเทเรื่องการตั้งคริสตจักรตามบ้านอย่างมาก   เดินทางไปสอนเรื่องนี้ตามสัมนาต่างๆ ทั่วสหรัฐ     หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เรารู้สึกได้เลยว่า การตั้งคริสตจักรเป็นเรื่องง่ายๆ   ง่ายมากๆ   อยากทำก็ทำได้เลย   เมื่อเราอ่านแล้วจะรู้สึกว่า  เราตั้งคริสตจักรได้   และทำได้เดี๋ยวนี้เลย!   


   ส่วนเล่มที่สี่ คือ ตั้งคริสตจักร โดย ผมเป็นผู้เีขียนเอง  เล่มนี้ที่จริงแล้วถูกเขียนขึ้นเป็นหลักการพื้นฐานของการตั้งคริสตจักรในทุกแนว   แต่จุดแข็งคือมีความเป็นภาคปฏิบัติมากๆ  และเข้าใจง่ายมากๆ  สามารถช่วยให้คริสเตียนทุกคนตระหนักได้ว่า เราทุกคนล้วนตั้งคริสตจักรได้  และทำได้หลายๆ แบบ  ตามแต่ความพร้อม ของประทาน และนิมิตภาระใจ   ทั้งสี่เล่มนี้  ติดต่อได้ที่ สถาบันคริสเตียนศึกษาและพัฒนาคริสตจักร (ซีอีดี)  สถานที่ตั้ง433/11 ซอยสวนพลู  ถนนสาทรใต้ ยานนาวา กรุงเทพ 10120  โทร 022861067-8  Fax: 022131259   Email: ced@cedthai.org   



หนังสือดีๆ ที่ให้ความเข้าใจเรื่องนี้ยังมีอีกหลายเ่ล่ม แต่หนังสือทั้งสี่เล่มนี้สามารถเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับพี่น้องที่ประสงค์จะเริ่มตั้งคริสตจักรโดยเฉพาะอย่างคริสตจักรเครือข่ายในรูปแบบคริสตจักรตามบ้าน    


เดินหน้าไปด้วยกันครับ   "Work Together We Can Do More"

วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เล็กคือใหญ่ - Small is Big



กจ 2:46 "เขา​ได้​ร่วม​ใจ​กัน​ไป​ใน​พระ​วิหาร และ​หัก​ขนม​ปัง​ตาม​บ้าน​ของ​เขา ร่วม​รับประทาน​อาหาร​ด้วย​ความ​ชื่น​ชม​ยินดี​และ​ใจ​กว้างขวาง ทุก​วัน​เรื่อยไป​"

มีหลักฐานทางการวิจัย ยืนยันว่า พลังแห่งการขับเคลื่อนข่าวประเสริฐ มาจากกลุ่มคริสตจักรเล็ก ที่ดำเนินชีวิตประกาศข่าวประเสริฐ ผ่าน วิถึประจำวัน ไปสู่การเปลี่ยนแปลง โลก

หนังสือ Small is Big!: Unleashing the big impact of intentionally small churches 
หรือ เล็กคือใหญ่: ปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ของคริสตจักรเล็กอย่างมีเป้าหมาย

นักวิจัยคริสตจักร จอร์จ บาร์นา (George Barna) นำข่าวสารอันยิ่งใหญ่มาสู่คริสตจักรว่า
เราจะเปลี่ยนโลกนี้ได้ ถ้าความเชื่อของคริสตชนขยายออกไปอย่างทวีคุณ ผ่านวิถีชีวิต ในวงกว้าง จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง

คริสตจักรของคนเพศที่สาม (Gay Church)



นี่เป็นคริสตจักรที่ชื่อ DGFC ในเมือง เดอร์บัน ที่ประเทศอัฟริกาใต้  เป็นตัวอย่างหนึ่งของ

คริสตจักรที่บอกชัดว่าเป็น คริสตจักรเกย์ (Gay Church) หรือคริสตจักรของชาวรักร่วมเพศ

 อย่างชัดเจน   และคริสตจักรเช่นนี้กำลังมีมากขึ้นในหลายทวีป และหลายประเทศ   

ในอเมริกา  ในอัฟริกา  และท้ายสุดคือในเอเชีย  

แม้แต่สิงคโปร์ก็มีคริสตจักรสำหรับชาวเพศที่สามแล้วเช่นกัน



คนเพศที่สามที่ว่านี้ หมายถึงผู้ที่มีพฤติกรรมไม่ตรงกับลักษณะเพศโดยธรรมชาติกำเนิดของตนเอง  รวมถึงการมีพฤติกรรมรักร่วมเพศด้วย   


เรื่องของบทบาทของคนเพศที่สามกับคริสตจักรกำลังเป็นประเด็นที่ร้อนแรงมาก

ในโลกตะวันตก   ซึ่่งแน่นอนว่า ขณะนี้ดูยังไม่เป็นประเด็นในประเทศไทย   

เนื่องจากยังมีจำนวนคริสตชนน้อยมาก   และคริสตจักรไทยยังมีความเกี่ยวข้องกับสังคม

ไม่ลึก จึงดูเหมือนยังไม่เป็นปัญหา    (ต่างกับในศาสนาเดิมที่กำลังประสบปัญหานี้มากแล้ว

โดยเฉพาะในภาคเหนือ)       แต่เราก็ควรต้องรับรู้และเรียนรู้ไว้ล่วงหน้า  

เพราะกำลังจะเป็นประเด็นแน่ในเวลาไม่นานนักแน่นอน


ประเด็นที่ต้องคิดก็คือ 

คริสตจักรควรปฏิบัติต่อคนเพศที่สามที่ยังไม่เป็นคริสเตียนอย่างไร?

คริสตจักรควรปฏิบัติต่อคริสเตียนที่(ยัง)เป็นคนเพศที่สามอย่างไร?

คริสตจักรควรจัดนมัสการเพื่อชาวเพศที่สามหรือไม่ อย่างไร?

คริสตจักรควรยอมรับการแต่งงานของชาวเพศที่สาม  รวมทั้งจัดพิธีให้หรือไม่? 

คริสตจักรควรยอมรับผู้รับใช้หรือผู้นำที่เป็นชาวเพศที่สามหรือไม่ อย่างไร?

ควรมีคริสตจักรสำหรับชาวเพศที่สามโดยเฉพาะหรือไม่  อย่างไร?  

สะท้อนความเห็นเข้ามากันนะครับ


(โดย  ดร.ศิลป์ชัย  เชาว์เจริญรัตน์) 

คริสตจักรเครือข่ายบ้าน's Facebook Wall