จริงๆ แล้ว จะใืช้สำนักงานก็ได้ ร้านค้าก็ได้ โรงงานก็ได้ โกดังก็ได้ หรือแม้แต่ศาลาที่ไหนก็ได้ สวนสาธารณะก็ได้ หรือใต้ต้นไม้ที่ไหนก็ได้ ที่จริงแนวทางของคริสตจักรบ้านก็คือ คริสตจักรง่ายๆ (ที่ศัพท์เทคนิคเรียกกันว่า Simple Church หรือ Simply Church) ซึ่งอาจพูดได้ใหม่ว่าคริสตจักรบ้านหมายถึงที่ไหนก็ได้ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อหรือเช่า ที่ๆ เราสามารถจัดการใช้ได้ไม่ยาก
2. การนั่งนมัสการในคริสตจักรบ้านต้องใช้ชุดรับแขก (โซฟา)
ไม่จำเป็น อาจนั่งโซฟาก็ได้ ถ้าบ้านเราอยู่กันแบบนั้น แต่บ้านไทยจำนวนมากไม่ได้ใช้โซฟา แต่นั่งกับพื้น ก็ทำตามนั้น บ้านที่เป็นร้านค้าตามอาคารพาณิชย์อาจนั่งเก้าอี้พลาสติกกลมไม่มีพนัก ก็นั่งตามนั้น หรือนั่งกันหลายๆ แบบตามแต่สภาพเก้าอี้ที่มี หรือบางทีก็นั่งโซฟาบ้าง เก้าอี้บ้าง นั่งพื้นบ้าง และบ้างก็นอนฟังบ้าง ตามแ่ต่ที่สภาพและบรรยากาศจะเอื้ออำนวย
แต่บางบ้านมีความพร้อมมากอยากจัดที่นั่งแบบโบสถ์เลย คือมีเก้าอี้เีรียงเป็นแถวตอนหน้ากระดาน แถมมีการจัดธรรมาสก์ให้ด้วย นี่ก็เป็นคริสตจักรบ้านได้เช่นกัน
ส่วนใหญ่ รูปแบบการนั่งนมัสการไม่ถูกถือเป็นตัวชี้วัดความเป็นคริสตจักรบ้าน แต่จะชี้วัดตรงที่ว่าตัวอาคารนั้นๆ ใช้เพื่ออยู่อาศัยหรือทำธุรกิจอยู่แล้ว หรือต้องซื้อหรือเช่ามาเพื่อมานมัสการเป็นหลัก ถ้าใช้เพื่ออยู่อาศัยหรือทำธุรกิจเป็นหลักอยู่แล้วก็สามารถเรียกว่าเป็นคริสตจักรบ้านหรือคริสตจักรง่ายๆ ได้ แต่ถ้าต้องซื้อหรือเช่ามาเพื่อใช้นมัสการเป็นหลัก ต่อให้ดูเป็นบ้านอย่างไรหรือดูเล็กอย่างไร ก็มักไม่ถือว่าเป็นคริสตจักรบ้าน หรือคริสตจักรง่ายๆ
เพราะถ้าง่ายก็ต้องใช้สถานที่ที่มีอยู่แล้วนั่นเอง
สรุปก็คือจะเีรียกว่าคริสตจักรบ้านหรือคริสตจักรง่ายๆ ได้ ต้องใช้สถานที่ที่มีอยู่แล้ว!
นี่เป็นคริสตจักรบ้านที่ใช้ลานกลางแจ้งในบ้าน แต่จัดเรียงเก้าอี้อย่างกับโบสถ์ แต่ก็มีคนนั่งตามบันไดด้วย |
คริสตจักรบ้านในปักกิ่ง ประเทศจีน คนเยอะ จัดเก้าอี้เหมือนโบสถ์ใหญ่เลย |
3. คริสตจักรบ้านต้องนมัสการด้วยวิธีง่ายๆ ไม่มีอุปกรณ์อะไรมาก
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความเข้าใจผิด คริสตจักรบ้านจะทำอะไรง่ายๆ ก็ได้ ไม่มีเครื่องดนตรีเลย หรือจะมีเพียงกีต้าร์ หรือจะใช้เปิดซีดีก็ได้ ไม่มีเครื่องเสียงก็ได้ ใช้แต่หนังสือเพลงหรือชีทเพลงก็ได้ ที่จริงกลับตรงข้าม คริสตจักรบ้านจะมีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยอย่างเต็มที่ก็ย่อมได้
คริสตจักรบ้านบางแห่งมีความพร้อมมาก เครื่องเสียงแบบโฮมเธียเตอร์ที่ทันสมัยและราคาแพง การดูเนื้อเพลงอาจมีการใช้โน๊ตบุ๊คต่อเข้ากับเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ หรือบางที่ก็ต่อกับจอทีวีแอลซีดี (บางบ้านจอทีวีใหญ่ขนาด 50 นิ้ว คมชัดกว่าที่โบสถ์เสียอีก) บางบ้านอาจเปิดดีวีดีคอนเสิร์ทนมัสการและนมัสการไปด้วยก็ยังมี ยิ่งกว่านั้นอีก คริสตจักรบ้านบางแห่งถึงกับสามารถมีเครื่องดนตรีที่ทันสมัยครบชุด (แม้แต่กลองก็ยังใช้กลองอีเลคทรอนิคส์ที่สามารถควบคุมเสียงให้ดังเบาแค่ไหนก็ได้ ไม่มีหนวกหูคนข้างบ้าน)
ตามประสบการณ์ส่วนตัว ผมพบว่าพี่น้องหลายคนมีสภาพความเป็นอยู่ที่บ้านที่ดีมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะมีฐานะดี หรืออาจเป็นเพราะความใส่ใจต่อความเป็นอยู่ บ้านของหลายท่านนั้นมีความพร้อมกว่าที่โบสถ์เสียอีก สะอาดเรียบร้อยสดวกสบายกว่า จะว่าไปก็ถือเป็นเรื่องธรรมดานะครับ การที่เป็นของส่วนตัวประกอบกับต้องอยู่กับมันทุกวัน ย่อมต้องดูแลกันดีกว่า ในขณะที่ที่โบสถ์เป็นของส่วนรวมหรือของสาธารณะ แถมจะทำอะไรก็ต้องมีกรรมการ ต้องฟังความเห็นของหลายๆ คน การจะให้ทำอะไรดังใจก็ย่อมจะยากกว่าของส่วนตัว
ท้ายที่สุดคริสตจักรบ้านบางทีเลยหรูหรากว่าที่โบสถ์ที่ท่านผู้นั้นไป (หรือเคยไป) เสียอีก!
4. ถ้าตั้งคริสตจักรบ้านแล้วก็ไม่ต้องไปโบสถ์อีกแล้ว
ที่จริงแล้ว การตั้งคริสตจักรบ้านก็คือการตั้งคริสตจักรใหม่ขึ้นมาอีกแห่งหนึ่งเหมือนกับคริสตจักรทั่วไปนั่นเอง เพียงแต่ใช้บ้านหรือสถานที่ที่เรามีอยู่แล้วเป็นสถานที่นมัสการ
ฉะนั้น หากตั้งคริสตจักรใหม่ขึ้นมาแล้ว ถ้าอยากจะเน้นทำที่ที่ตั้งใหม่ให้แข็งแรงเต็มที่ก่อนซึ่งก็ต้องทุ่มเทเวลามาก จนไม่มีเวลาไปที่ไหนอีกรวมทั้งที่เดิมก็ย่อมได้ แต่ถ้ายังอยากไปคริสตจักรเดิม(ซึ่งหมายถึงที่ที่มีอาคารโบสถ์)ก็ย่อมไปได้แน่นอน แน่นอนว่าการตัดสินใจเริ่มพันธกิจใหม่หรือหยุดไปที่เดิมก็อาจสร้างความไม่สบายใจกับคริสตจักรเดิมได้ ก็ต้องขอพระเจ้าทรงนำให้ใช้วิธีที่เหมาะสม
เป็นความเข้าใจผิดมานานแล้วว่าคริสเตียนต้องนมัสการเพียงอาทิตย์ละครั้งเดียว และต้องไปนมัสการที่คริสตจักรแห่งเดียว ต้องเป็นแกะของศบ.คนเดียว (ที่มักใ้ช้พระคัมภีร์สอนกันว่าแกะต้องฟังเสียงผู้เลี้ยง ซึ่งต้องดูบริบทว่าผู้เลี้ยงตรงนั้นหมายถึงพระเยซู) เป็นสมาชิกของคริสตจักรท้องถิ่นแห่งเดียว ต้องรับใช้พระเจ้าในที่ๆ เดียว และรับใช้รูปแบบเดียว เราสามารถทำคริสตจักรได้หลายๆ แห่งและหลายแบบไปพร้อมๆกัน จะทำทั้งคริสตจักรใหญ่ที่มีอาคารและคริสตจักรบ้านไปพร้อมๆ กันย่อมได้แน่นอน ถ้าทำไหว
ในเรื่องที่มีบางความเห็นบอกว่า เราต้องเป็นสมาชิกคจ.แห่งหนึ่งแห่งเดียว อาจต้องดูกรณีของท่านเปาโลว่า ท่านเป็นสมาชิกคริสตจักรท้องถิ่นแห่งไหน? ท่านไปอยู่ในที่ต่างๆ เพื่อมุ่งรับใช้พระเจ้าในการตั้งคริสตจักรและเสริมสร้างคริสตจักรให้แข็งแรงขึ้น แล้วท่านก็ย้ายไปเรื่อยๆ รวมแล้วนับเป็นสิบๆ เมืองในสามทวีป แล้วท่านก็ยังคอยเขียนจดหมายมาหนุนใจเตือนสติในทุกแห่ง รวมทั้งกลับมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว ท่านเป็นคนที่มุ่งที่แผ่นดินพระเจ้าหรือคริสตจักรสากลมากกว่าคริสตจักรท้องถิ่น
จำได้ว่านานมาแล้ว ดร.ไพฑูรย์ หัตถมาศ ท่านได้เทศนาในการประชุมสหกิจในปีหนึ่ง กล่าวว่า "ผมเห็นการแข่งขันของคริสตจักรทั้งหลายแล้ว ผมรู้สึกอยากจะขอลาออกจากการเป็นสมาชิกคริสตจักรแล้วขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกของอาณาจักร(พระเจ้า) แทน"
5. ในคริสตจักรบ้าน คนที่เป็นเจ้าของบ้านต้องเป็นศิษยาภิบาล
ไม่จำเป็นเลย คนอื่นในกลุ่มสามารถเป็นศิษยาภิบาลได้ และอย่าลืมว่า ศิษยาภิบาลมีได้หลายคน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดียว สามารถเป็น "คณะศิษยาภิบาล" และเพิ่มบุคคลที่เป็นศิษยาภิบาลได้เพิ่มขึ้นเรืื่อยๆ เพื่อช่วยกันทำพันธกิจ รวมทั้งเพื่อช่วยในการขยายไปตั้งคริสตจักรบ้านแห่งใหม่ต่อไปอีกอย่างไม่รู้จบ
ส่วนในการตัดสินใจเรื่องกิจธุระโดยเฉพาะที่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็สามารถให้สมาชิกทั้งหมดร่วมประชุมด้วยกัน หรือบางเรื่องอาจตั้งกลุ่มย่อยขึ้นมาแล้วมอบอำนาจให้ช่วยตัดสินใจก็ได้
---------
นี่เป็นบางส่วนหนึ่งของความเข้าใจผิดที่มักเกิดขึ้น ยังมีประเด็นอื่นๆ อยู่อีกบ้าง มีความคิดเห็นหรือคำถามอะไร ส่งเข้ามาได้ครับที่ networkchurchministry@gmail.com
ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์
น่าสนใจมาก...อยากทำบ้างจังเลย..
ตอบลบอาจารย์ครับไม่ใช่ทุกคนที่เป็นเปาโลเพราะเขาถูกเรียกให้เป็นอัครทูต เปาโลจึงต้องทำงานแบบที่เป็นอยู่ แต่อย่าลืมเปาโลก็เข้าไปขอคำปรึกษาสภาอัครทูตแสดงถึงการยอมอยู่ภายใต้สิทธิอำนาจของบรรดาอัครทูตอื่น
ตอบลบการมีคจ.ตามบ้านก็เป็นสิ่งที่ดีในด้านหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดในความหมายของพระกาย โปรดพิจารณาอย่างครบถ้วนถึงคริสตจักรและอาณาจักร อย่าทำให้พระกายแตกแยกออกจากกันเลย ด้วยความเคารพรัก