นมัสการแบบง่ายสำหรับคริสตจักรแบบง่าย (Simple Worship for Simple Church)

มีคำถามเข้ามามากว่า...

"อยากทำคริสตจักรแบบง่ายครับ แต่กลัวว่าการนมัสการจะไม่ดีเท่าคริสตจักรโบสถ์!"

"อยากทำคริสตจักรในสำนักงานค่ะ  แต่จะทำอย่างไรให้การนมัสการในกลุ่มเล็กให้รู้สึกเร้าใจเท่านมัสการที่คริสตจักรใหญ่!"

"อยากทำคริสตจักรบ้านค่ะ  แต่ไม่มีเครื่องดนตรี และไม่มีใครเล่นกีต้าร์เป็น!"

"ร้องเพลงไม่ค่อยเก่งครับ  เลยไม่กล้านำนมัสการ"

ฯลฯ

ถ้อยคำเหล่านี้สะท้อนข้อกังวลที่ทำให้หลายท่านกล้าๆ กลัวๆ ในการทำคริสตจักรบ้าน ก็คือเรื่องการนำนมัสการ  กลัวว่าจะนำได้ไม่ดี  ไม่มีดนตรี  หรือมีก็ไม่เร้าใจ  เกรงจะทำให้บรรยากาศไม่ดี  น่าเืบื่อ  การนมัสการไม่เต็มอิ่ม

วิธีที่ใช้กันมากในการนมัสการกลุ่มย่อยที่เราต่างทราบกันดีก็คือให้ผู้นำนมัสการ ร้องเพลงไปกับการเล่นกีต้าร์  แล้วก็ให้ทุกคนใช้หนังสือเพลง หรือชีทเพลง   นี่ก็เป็นสิ่งที่ดีแต่ก็ยังมีปัญหาอีกในกรณีที่ไม่มีทั้งผู้เล่นกีต้าร์  และผู้นำก็ร้องเพลงไม่เก่งด้วย

คริสตจักรแบบง่ายๆ ที่ทำกันในโลกนี้ได้ใช้วิธีที่ง่ายขึ้นไปอีกคือ  เปิดซีดีเพลงนมัสการ  โดยแจกเนื้อร้องให้สมาชิกร้องตาม   และที่คล้ายๆ กันอีกวิธีหนึ่งคือดาวโหลดวีดีโอเพลงนมัสการใน Youtube มาใช้ ซึ่งได้ทั้งเพลงทั้งเนื้อเพลงขึ้นจอได้พร้อมๆ กันด้วย

ข้อดีที่ชัดเจนของวิธีนีคือดนตรีสมบูรณ์แบบมาก  และผู้นำก็ไม่ต้องใช้ความสามารถในการร้องมาก  เพียงแค่เปิดเพลง   หรือนอกจากจะหาเพลงที่มีแต่เสียงดนตรี (Backing Track) แล้วผู้นำร้อง เอง

ข้อเสียที่บางคนพูด  คือ 1. ร้องซ้ำไม่ได้ตามที่ต้องการ   2. ปรับจังหวะปรับคีย์ไม่ได้ตามต้องการ    3. เลือกเพลงไม่ได้ตามต้องการ  (เพราะเพลงที่อยากใช้ไม่ได้อยู่ซีดีแผ่นเดียวกัน)

บรรดาคนที่อยู่ในคริสตจักรบ้านที่ใช้วิธีเปิดซีดีนมัสการนี้ หลายคนบอกว่า ตอนแรกก็อาจยังรู้สึกไม่ชิน เพราะยึดติดกับดนตรีสดแบบที่ใช้ตามโบสถ์   แต่เพียงพักเดียวเท่านั้นก็ไม่มีปัญหา เพราะมันได้ความรู้สึกได้รับความสมบูรณ์ของดนตรีมาก  เหมือนเวลาที่นมัสการส่วนตัวที่เปิดซีดีเพลงนมัสการฟังในบ้านหรือในรถ

ส่วนที่บอกว่าร้องซ้ำไม่ได้ตามต้องการ  หรือปรับจังหวะปรับคีย์ไม่ได้ตามต้องการนั้น หลายคนที่ปรับตัวได้แล้วก็บอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่  เป็นเรื่องของความรู้สึกเท่านั้น  ขอเพียงถึงจุดที่ใจเราโฟกัสที่พระเจ้าได้  อะไรก็ไม่ใช่ปัญหา

และข้อเสียที่ว่า เลือกเพลงไม่ได้ตามต้องการนั้น พวกเขาก็ว่าแก้ได้โดยการใช้เพลงที่ถูกแปลงเป็นไฟล์เอ็มพีสาม  และเลือกเปิดได้ตามต้องการ   ส่วนเพลงไหนถ้าไม่มีจริงๆ หรือหาไม่ได้จริงๆ   ก็ทำใจปรับตัวไม่ต้องไปใช้เพลงนั้น  หรือไม่ก็ร้องปากเปล่าโดยไม่ต้องมีดนตรี

ส่วนจุดดีที่พวกเขาชอบกันมากเมื่อเปลี่ยนมานมัสการด้วยการเปิดซีดี หรือเปิดไฟล์เอ็มพีสาม  ก็คือ  ไม่ต้องซ้อมเพลง (ชอบมาก) ไม่ต้องกลัวเล่นไม่เป็นหรือเล่นไม่เก่ง   ดนตรีสมบูรณ์แบบยอดเยี่ยมเหมือนต้นฉบับเป๊ะ  (อ้าว ก็มันต้นฉบับนี่นา)  แล้วพอลองไปสักพักพวกเขาก็รู้สึกว่าวิธีนี้ก็สามารถช่วยให้นมัสการได้อย่างเต็มอิ่ม ไม่ต่างอะไรกับประสบการณ์เดิมๆ เลย  นี่ยังไม่รวมถึงข้อดีอื่นๆ  คือ สะดวกมาก   เพราะไม่ต้องขนย้ายเครื่องดนตรีเลย

แต่ที่เหนือกว่ามากและสำคัญที่สุดก็คือ  มันง่ายมาก!!   และใครจะตั้งคริสตจักรใหม่ก็ไม่ต้องกลัวอะไรเรื่องการนำนมัสการอีกแล้ว  สามารถเริ่มต้นได้ทันทีเลย

ที่จริงแล้ว การนมัสการโดยใช้การเปิดซีดี ยังมีประโยชน์มากอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงก็คือ มันถูกมาก!  ถูกกว่าที่คริสตจักรโบสถ์ทั่วไปทำกันอยู่    
เพราะแทนที่จะต้องซื้อเครื่องดนตรีครบชุด   สามารถใช้เพียงเครื่องเสียงพร้อมเครื่องเล่นซีดีหรือเอ็มพีสาม  ซึ่งมีกันอยู่แล้วแทบทุกบ้านทุกคน    หรือดีหน่อยก็เป็นชุดเครื่องเสียงสเตอริโอที่เสียงดีขึ้นอีกหน่อย  หรือเปิดจากคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค และต่อลำโพงคุณภาพดีแต่ราคาถูก    ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังถูกกว่าอุปกรณ์ดนตรีและเครื่องเสียงตามคริสตจักรโบสถ์ทั่วๆไปมากทีเดียว  

มีศิษยาภิบาลหลายท่านบอกผมว่า ทุกวันนี้คริสตจักรแทบทุกแห่งทุ่มเทกันเรื่องดนตรีนมัสการมากจนถึงมากที่สุด     มีการทุ่มเงินทองเพื่อเครื่องดนตรีเครื่องเสียงระบบแสงสีบนเวทีมาก   เป็นหลักแสนจนเป็นหลักล้านกันแทบทั้งนั้น  งบดนตรีเป็นงบที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของงานคริสตจักร   และบางที่งบเรื่องนี้สูงกว่างบเพื่อการประกาศ และแน่นอน สูงกว่างานมิชชั่นด้วย !  

จนทุกวันนี้บริษัทขายเครื่องดนตรีเครื่องเสียงหลายที่ต่างยอมรับตรงกันว่า ทุกวันนี้โบสถ์คริสต์คือลูกค้ารายใหญ่ของพวกเขา  จากเดิมที่เคยเป็นพวกผับหรือเธค!

ย้ำอีกครั้ง  ถ้าเราจะทำให้คริสตจักรให้เกิดขึ้นให้มากที่สุด  ต้องทำให้การทำคริสตจักรเป็นเรื่องง่ายที่สุด  ซึ่งส่วนหนึ่งก็มีความหมายด้วยว่า ต้องทำให้ถูกที่สุดด้วย


ศิลป์ชัย  เชาว์เจริญรัตน์