ท่านที่กำลังทำหรือประสงค์จะทำคริสตจักรเครือข่ายหรือคริสตจักรเครือข่ายบ้านหรือต้องการสนับสนุน โปรดแจ้งให้ทางพันธกิจทราบเพื่อจะได้ช่วยเชื่อมโยงกับที่อื่นๆเพื่อจะช่วยเหลือกันและกันได้อย่างกว้างขวาง แจ้งมาที่ networkchurchministry@gmail.com / ดาวโหลดเอกสารแนะนำ

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อุปสรรคของคริสตจักรเครือข่าย และค่านิยมที่ทำให้เกิดคริสตจักรเครือข่าย



อุปสรรคของคริสตจักรเครือข่าย  
และค่านิยมที่ทำให้เกิดคริสตจักรเครือข่าย 
Obstacles and Core Value for Network Church 

ศิษยาภิบาลไทยหลายต่อหลายท่านบอกตรงกันว่าคริสตจักรเครือข่ายเป็นเรื่องที่เกิดได้ยากมากในประเทศไทย   เมื่อถามว่าทำไมท่านคิดเช่นนั้น  คำตอบส่วนใหญ่มักมีดังนี้
  1. กลัวสูญเสียอำนาจและความโดดเด่นที่เคยมีสูงสุดเพียงลำพัง  กลัวสูญเสียความภักดีอย่างเต็มขนาดที่เคยได้รับจากสมาชิก    ศบ.บางท่านบอกว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันยาก
  2. ผลประโยชน์จะขัดกัน  กลัวสูญเสียเงินถวายของสมาชิกไปให้แก่คริสตจักรอื่น  
  3. หวงและห่วงทรัพย์สิน   ไม่อยากต้องแบ่งปันทรัพย์สินที่มีให้คริสตจักรอื่นมาใช้ประโยชน์  กลัวเสีย 
  4. กลัวลูกแกะจะไปติดคน คจ.อื่น
  5. ไม่อยากแบ่งธรรมาสก์เทศน์กับนักเทศน์คนอื่น หรือ กลัวต้องถูกเปรียบเทียบ ว่านักเทศน์คนไหนดีกว่า  คจ.ไหนดีกว่า 
  6. กลัวว่าจะมีปัญหาขัดแย้งหรือทำงานยากเพราะความเชื่อหรือวัฒนธรรมองค์กรแตกต่างกัน     หรือกลัวคำสอนเท็จของคริสตจักรอื่นจะมาทำให้คนของตนเองหลงผิด  ฯลฯ
  7. กลัวมีปัญหากับคณะต้นสังกัด   
ท่านผู้อ่านคิดว่าปัญหาที่ ศบ.หลายท่านกล่าวมาข้างต้น เป็นอย่างไร  และท่านมีคำตอบสำหรับความกังวลเหล่านี้อย่างไร  รบกวนลองตอบลงในส่วนแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ



อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ผู้ที่จะก่อให้เกิดคริสตจักรแบบเครือข่ายได้ จำเป็นต้องมีค่านิยมหลัก หรือ Core Value บางประการ ดังนี้

1. มุ่งสร้างอาณาจักรของพระเจ้า  ไม่ใช่อาณาจักรของเรา   เน้นอาณาจักรพระเจ้า  พระกายพระคริสต์ และคริสตจักรสากล  มากกว่าที่จะเน้นคริสตจักรท้องถิ่น  หรือสาขาของคริสตจักรท้องถิ่น

2. เชื่อในความเป็นปุโรหิตหลวงของผู้เชื่อทั้งปวง  (The Priesthood of All Believers)  มากกว่าเรื่องสิทธิอำนาจเหนือผู้อื่นของผู้เชื่อบางคน   สิทธิอำนาจที่แท้มาจากการมีชีวิตที่เป็นแบบอย่างในการเชื่อฟังพระเ้จ้า  

3. เชื่อในการร่วมมือและแบ่งปันของประทานและทรัพยากรที่พระเจ้าประทานให้ผู้เชื่อทุกคน เพื่อประโยชน์ร่วมกันในการเสริมสร้างพระกายพระคริสต์

4. เชื่อในการทรงเลี้ยงดู พระพรและบำเหน็จของพระเจ้าที่จะมีมาแน่นอนเมื่อผู้นำรับใช้พระเจ้าอย่างสัตย์ซื่อและได้รับความศรัทธาจากบรรดาผู้เชื่อ     โดยไม่จำเป็นต้องได้มาด้วยการจ่ายเงินเดือนของคริสตจักรท้องถิ่นเท่านั้น  และเรายังสามารถรับใช้แบบผู้รับใช้ฆราวาสได้

5. เชื่อว่า การทำงานร่วมกันของผู้นำผู้รับใช้  จะทำให้เกิดผลมากกว่าทำโดยลำพัง    จะมีการพัฒนา   ความมีประสิทธิภาพ  ความคุ้มค่า  ความชื่นชมยินดี  มากกว่าการเป็นผู้นำโดยลำพัง    ทั้งยังทำให้เกิดการตรวจสอบและช่วยปกป้องกันและกัน อันจะนำไปสู่ความปลอดภัยและความชอบธรรมมากกว่าทำโดยลำพังด้วย



6. เชื่อว่าหน้าที่ของผู้นำคริสตจักรคือการสร้างพี่น้องคริสเีตียนทุกคนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ และสร้างให้เขาทุกคนเป็นผู้รับใช้  ที่สามารถทำพันธกิจได้อย่างเต็มที่ที่สุด  โดยเขาสามารถเป็นผู้นำพันธกิจได้เอง  โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้เราตลอดไป   และช่วยให้เขาบรรลุพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อเขา  มิใช่มุ่งให้เขาตอบสนองความต้องการของเรา    และต้องสร้างเขาให้มุ่งภักดีต่อพระคริสต์ มิใช่ให้ภักดีต่อเรา



หลายท่านเห็นตรงกันว่า หากเรามีค่านิยมเช่นนี้ได้ ไม่ยากเลยที่จะเริ่มต้นคริสตจักรเครือข่าย

5 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณผู้ประสานงานคริสตจักรเครือข่าย ได้เห็นถึงวิสัยทัศน์ และความพยายามของท่าน รู้สึกศรัทธา และชื่นชม ของพระเจ้าอวยพระพรให้ปณิธานนี้สำเร็จ เพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระนามของพระเยซูเจ้า
    ซาโลม

    ตอบลบ
  2. ความเห็นส่วนตัว27 พฤษภาคม 2554 เวลา 19:45

    รู้สึกชื่นชมและเห็นด้วยกับหลักการของคริสตจักรแบบเครือข่าย ซึ่งจะนำผู้นำคจ.ทั้งหลายให้กลับสู่ความเป็นเอกภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่ไม่ทราบว่าในทางปฏิบัติจะเป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากหลักการทำงานของคริสตจักรแบบเครือข่ายนี้ แม้จะมีหลักเหตุผลที่ดีมาก แต่ก็เป็นหลักการในเชิงอุดมคติ เพราะขัดแย้งกับธรรมชาติความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่ยังคงมีอยู่แม้ในบรรดาผู้รับใช้พระเจ้าก็ตาม

    เห็นได้ว่าสิ่งแรกที่ต้องทำของผู้รับใช้ทั้งหลายที่จะเข้าสู่ระบบคริสตจักรเครือข่ายนี้ก็คือ การขจัดความเห็นแก่ตัวออกไปอย่างสิ้นเชิงจริงๆ โดยเฉพาะผู้นำคริสตจักรที่อยู่ในฐานะของผู้ให้มากกว่า เพราะผู้นำคริสตจักรที่อยู่ในฐานะของผู้รับประโยชน์ย่อมง่ายกว่าในการเข้าร่วม คำชี้แจงของอาจารย์ศิลป์ชัยต่อคำถามที่เป็นปัญหาต่างๆ ที่เป็นค่านิยมหลักของหลักการแบบเครือข่ายนี้จึงตีประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ว่า ถ้าเราทำเพื่อเห็นแก่อาณาจักรของพระเจ้า ไม่ใช่เพื่อสร้างอาณาจักรของเราเอง คำถามเกี่ยวกับปัญหาเหล่านั้นก็คงจะไม่สำคัญอะไร... จริงที่สุด และสมควรที่จะมีค่านิยมอย่างนั้นมากที่สุดในท่ามกลางผู้รับใช้ทุกคน

    ดิฉันขอปรบมือให้กับวิญญาณแห่งการเป็นผู้รับใช้ที่ไม่เห็นแก่ตัวของผู้รับใช้ทุกๆ ท่านในคริสตจักรแบบเครือข่าย และวิญญาณอย่างเดียวกันนี้ในผู้รับใช้นอกคริสตจักรแบบเครือข่ายด้วย เพราะสมควรที่เราจะรับใช้พระเจ้าให้สมกับการเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ไม่ใช่ผู้รับใช้ตนเองและครอบครัว

    ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรโครงการนี้และผู้รับใช้ของพระเจ้าทุกๆ ท่านให้ประสบผลสำเร็จค่ะ

    ปริศนา เฮ้ง

    ตอบลบ
  3. ขณะนี้ ทางพันธกิจคริสตจักรเครือข่าย ได้รับการติดต่อมาจากหลายๆคริสตจักร จากหลายภาค หลายจังหวัดที่แสดงความจำนงที่จะเข้าร่วมพันธกิจคริสตจักรเครือข่าย แสดงให้เห็นว่า มีหลายคริสตจักรที่กำลังตื่นตัวถึง วิญญาณ ที่จะสร้างเอกภาพ และ เห็นแก่อาณาจักรพระเจ้าของผู้รับใช้หลายๆท่านครับ

    คริสตจักรใดที่สนใจที่จะเข้าร่วมพันธกิจเครือข่ายนี้ สามารถติดต่อเข้ามาได้ครับ ที่ networkchurchthai@gmail.com

    ตอบลบ
  4. หากเรามีวิญญาณรักพระเจ้าสุดใจ รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง (เอาใจเขามาใส่ใจเรา) มีความจริงใจ หลุดพ้นจากการเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว มีความรักอย่างแท้จริง และมีชีวิตที่ติดสนิทกับพระเจ้า ยำเกรงพระเจ้า ทำทุกอย่างเพื่อถวายเกียรติแด่พระพระนามพระเจ้า ทำด้วยความรักพระเจ้าและรักห่วงใยคน

    สำรวจและระมัดระวังชีวิตทุกวัน เชื่อว่าแผ่นดินของพระเจ้ามาตั้งอยู่ในประเทศไทยได้ไม่ยากอย่างที่คิด

    เมล็ดพันธุ์ของความถ่อมใจ ผู้เล็กน้อย เชื่อว่ามีมากในแผ่นดินไทย

    คริสตจักรเครือข่ายที่เริ่มต้นจากเมล็ดพันธุ์ที่บริสุทธิ์ในพระคริสต์ จะเกิดและขยายผลไปอย่างมากมายและรวดเร็วเมื่อถึงเวลาหนึ่ง

    คริสตจักรเครือข่ายที่เริ่มต้นในหมู่บ้านที่มีการซ่อม สร้าง เสริมและพัฒนาชีวิตกันและกันในพระคริสต์อย่างครบถ้วนทุกด้านจากภายในคือวิญญาณ จิตใจและความคิด การฝึกฝนทักษะชีวิตความสัมพันธ์กับพระเจ้า
    ความสัมพันธ์กับผู้อื่น สติปัญญาตามหลักการพระคัมภีร์ และการประยุกต์ใช้ความรู้ เพื่อนำประโยชน์และการพัฒนาไปให้ผู้อื่น ครอบครัว และชุมชน

    คนก็จะเห็นพระเจ้าเป็นความจริงของชีวิต มีฤทธิ์เดช มีการเปลี่ยนแปลงชีวิต
    เป็นเกลือและแสงสว่าง มีความรัก มีความม่งมั่น มีความอดทน และมีความเพียรพยายามจนบรรลุเป้าหมาย ใครก็อยากมาเชื่อพระเจ้า คนก็จะวิ่งเข้ามา เพราะคนของพระเจ้าอุทิศทุ่มเทแก่คนหิว (คือคนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งมีหลายอย่าง หลายด้าน)

    หากคริสตจักรเครือข่ายมีการรวมคน รวมสติปัญญา รวมทรัพยากร เหมือนสมัยพระธรรมกิจการ เชื่อว่าพระเจ้ามีการทรงเรียก เตรียมคน และฝึกฝนคนของพระองค์ไว้อย่างครบถ้วนแล้ว แต่ขาดศูนย์กลางในการรวบรวม มิใช่โดยตำแหน่ง แต่ด้วยภาระใจของแต่ละคนที่พระเจ้าใส่ไว้ให้ที่เหมือนกัน

    มีการประชุมร่วมคิด ร่วมทำ รับฟังปัญหาและความต้องการ สนับสนุนช่วยเหลือในสิ่งที่ขาด ซึ่งแต่ละกลุ่มอาจมีและขาดในสิ่งที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่เกิดการขาดแคลนอีกต่อไป

    เชื่อว่าการทรงสถิตและการบังคับพระพรในสิ่งที่จะช่วยขับเคลื่อน ทั้งการอัศจรรย์และสิ่งที่เป็นรูปธรรมจะเข้ามาสนับสนุนอย่างที่คาดไม่ถึง เพราะพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ และทรงรักษาพระสัญญาแน่นอน

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ8 สิงหาคม 2554 เวลา 22:52

    ในเมื่อเป็ยกระวนทัศน์ใหม่ก็ไม่น่าจะนำไปเปรียบเทียบกับคริสตจักรท้องถิ่นที่มีอยู่รังแต่จะทำให้เกิดความขัดแย้งโดยไม่จำเป็นเพราะต่างก็เป็นพระกายพระคริสต์. (ต่อว่า)ข่มเหงคริสตจักรก็ข่มเหงพระคริสต์

    ตอบลบ

นี่เป็นเวทีเสรีแต่โปรดสุภาพและไม่พาดพิงผู้อื่นอย่างไร้จริยธรรม รวมทั้งสนับสนุนให้ระบุชื่อจริง กองบก.ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบทความและความคิดเห็นอีกทั้งอาจลบหรือแก้ไขหากเห็นว่าไม่เหมาะสม ส่งความคิดเห็นโดยตรงต่อกองบก.ได้ที่ networkchurchministry@gmail.com

คริสตจักรเครือข่ายบ้าน's Facebook Wall